Others

14 สัตว์สูญพันธุ์ในยุคดึกดำบรรพ์ ที่อาจกลับมามีชีวิตอีกครั้งในอนาคต

สัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว สามารถที่จะกลับมาชีวิตอีกได้หรือไม่นั้น ปัจจุบันยังเป็นเพียงเชิงทฤษฎีเท่านั้น อย่างในหนังที่เราเห็นก็น่าจะเป็นเรื่อง Jurassic Park ที่นำเอาดีเอ็นเอมาทำให้เกิดเป็นไดโนเสาร์ได้

โดยในปัจจุบันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์สามารถโคลนนิ่งสัตว์ได้หลากหลายประเภทแล้วไม่ว่าจะเป็น หมา แมว แกะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่สามารถที่จะฟื้นคืนชีพสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปได้เลย แต่วันนี้เรามาลองดู 14 สัตว์ที่มีโอกาสกลับมามีชีวิตอีกครั้งในอนาคตกัน

.

1. Woolly mammoth หรือแมมมอธขนยาว

.

จากการค้นพบทารกแช่แข็งที่ทุ่งน้ำแข็งอาร์กติก ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเริ่มมีความหวังที่จะนำสัตว์ร่างยักษ์อย่างแมมมอธให้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในท้องของช้างยุคใหม่ ถึงแม้ว่าจะมีเซลล์ที่สมบูรณ์แล้ว แต่ก็ยังขาดสัตว์ที่เหมาะสมจะมาอุ้มบุญ ทำให้ความเป็นไปได้ที่ช้างแมมมอธจะกลับมาเดินบนโลกนี้ ยังเป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้น

.

2. Tasmanian tiger หรือเสือทัสมาเนีย

.

นักชีววิทยาในออสเตรเลียก็ยังมีซากตัวอ่อนของสัตว์สายพันธุ์นี้เก็บไว้ เพื่อที่จะชุบชีวิตมันขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็มีปัญหาเช่นเดียวกับแมมมอธขนยาวคือยังไม่สามารถหาสัตว์ที่มีความเหมาะสมมาอุ้มบุญได้นั้นเอง

.

3. Pyrenean ibex หรือแพะพีเรเนียน ไอเบ็กซ์

.

นี่คือแพะภูเขาสายพันธุ์หนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว และได้รับการยกเลิกสถานะการสูญพันธุ์ประมาณ 7 นาที ก่อนจะกลับมาสูญพันธุ์อีกครั้ง เพราะทารกที่เกิดจากการฝากครรภ์ในแพะนั้นไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เพราะปอดที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงทำให้มันกลายเป็นแพะสายพันธุ์ที่ยังไม่สามารถฟื้นคืนกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้

.

4. Saber-toothed หรือเสือเขี้ยวดาบ

.

ร่างของเจ้าแมวเขี้ยวยาวนี้ได้ถูกแช่แข็งไว้ และดีเอ็นเอของมันกับทายาทในโลกใหม่นั้นมีความใกล้เคียงกันพอสมควร แต่ก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันได้ว่ามันสามารถกลับมามีชีวิตได้จริงๆ

.

5. Moa หรือนกโมอา

.

หากไม่นับนกกระจอกเทศ โมอาก็จัดเป็นนกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นนกสายพันธุ์เดียวที่ไม่มีร่องรอยของปีกให้เห็นเลย ซึ่งตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้สกัดดีเอ็ดเอจากซากเปลือกไข่โบราณได้สำเร็จแล้ว แต่ยังมีปัญหาว่าลักษณะภายนอกของโมอานั้นคาบเกี่ยวระหว่างนกกระจอกเทศและนกอีมู แต่กลับไม่เกี่ยวข้องกับทั้งสองสายพันธุ์โดยตรง ทำให้ยังไม่มีแม่ที่จะมาอุ้มบุญไข่ของโมอาได้

.

6. Dodo หรือนกโดโด้

.

เป็นเวลากว่า 80 ปีที่นกบินไม่ได้สายพันธุ์นี้ได้สูญพันธุ์ไปจากโลก และมีความเป็นได้ว่า โดโด้อาจเกิดใหม่อีกครั้งในไข่ของนกพิราบซึ่งเป็นญาติห่างๆ ที่ใกล้ชิดที่สุดซึ่งมาชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบัน

.

7. Ground sloth หรือสล็อธยักษ์

.

นี่คือหนึ่งใน Mega Beast ที่อยู่ร่วมยุคมากับเสือเขี้ยวดาบและแมมมอธ และเชื่อกันว่ามันเป็นสัตว์ยักษ์กลุ่มสุดท้ายที่หายไปจากโลก เพราะหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ ที่นักวิทยาศาสตร์เจอทั้งมูลและโครงกระดูกของมัน ซึ่งเป็นแหล่งรวมของดีเอ็นเอที่หาได้ยาก แต่การชุบชีวิตจะยักษ์กินพืชที่สูงเกือบ 3 เมตรนี้ก็ยังมีอุปสรรคที่แม่อุ้มบุญของมันคือ สลอต ยุคใหม่ที่เล็กกว่าบรรพบุรุษของตัวเองหลายเท่า

.

8. Carolina Parakeet หรือนกแก้วคาโรไลน่า

.

ด้วยความหลงใหลในสีขนของนกแก้วพันธุ์พื้นเมื่องสายพันธุ์เดียวของสหรัฐอเมริกา ทำให้นกแก้วคาโรไลน่าถูกล่าจนสูญพันธุ์ และนกตัวสุดท้ายถูกพบเป็นซากที่จะนำไปจำหน่ายให้นักสะสมซากสัตว์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้เก็บดีเอ็นเอของนกพันธุ์นี้ไว้แล้วเพื่อรอการคืนชีพอีกครั้ง

.

9. Woolly rhinoceros หรือ แรดขนยาว

.

นี่คือสัตว์ที่พบได้บ่อยๆ ตามผนังถ้ำโบราณ และกระดูกของมันยังถูกรักษาเป็นอย่างดีในอากาศที่หนาวเย็นและอุณหภูมิติดลบของอาร์กติก จึงทำให้ดีเอ็นเอยังคงความสมบูรณ์สูงมาก แต่ก็ยังขาดสัตว์ที่จะมาอุ้มบุญมันอยู่ดี

.

10. Passenger pigeon หรือ นกพิราบพาสเซนเจอร์

.

เมื่อ 200 ปีก่อน มันเคยเป็นนกที่พบได้ทั่วไปในอเมริกาเหนือ และถูกยกให้เป็นเป้าซ้อมปืนชั้นดีของมนุษย์ เพราะต่างก็เชื่อว่าเจ้านกพวกนี้ไม่มีวันสูญพันธุ์แน่ๆ แต่แล้วฝันร้ายก็กลายเป็นจริงจนได้ เมื่อนกฝูงสุดท้ายได้หายไปจากโลกพร้อมๆ กับสงครามโลกครั้งสอง

.

แม้นักวิทยาศาสตร์จะมีดีเอ็นเอของมันอยู่ในมือและมันยังมีสายเลือดใกล้ชิดกับนกพิราบยุคใหม่มาก แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่านักวิทยาศาสตร์จะนำมันกลับมาได้หรือไม่

.

11. Irish elk หรือ กวางยักษ์ไอริช

.

หากเขาของกวางมูสในปัจจุบันทำให้คุณตื่นตาตื่นใจแล้ว คุณต้องได้เห็นเขาของกวางยักษ์ไอริชที่กว้างกว่า 4 เมตร แถมมันยังมีความสูงที่ระดับหัวไหล่ถึง 2 เมตร นี่คือยักษ์ใหญ่ที่หายไปพร้อมยุคน้ำแข็งอีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่ก็เหมือนกับ Mega Beast พันธุ์อื่นที่ได้รับการรักษาร่างกายไว้ใต้นำแข็งเป็นอย่างดี แต่ก็ยังไม่สามารถหาแม่อุ้มบุญเพื่อให้กำเนิดกวางยักษ์ได้อยู่ดี

.

12. Baiji River dolphin หรือ โลมาแม่น้ำพันธุ์จีน

.

นี่คือโลมาน้ำจืดแห่งแม่น้ำแยงซีในประเทศจีน ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนและโรงงานอุตสาหกรรม จนกลายเป็นสัตว์ตระกูลวาฬและโลมาสายพันธุ์แรกที่สูญพันธุ์ในโลกยุคใหม่

.

แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จีนจะสามารถสกัดเอาดีเอ็นเอจากซากของมันออกมาได้อย่างง่ายดาย และสามารถหาโลมาน้ำจืดที่ซีกโลกอื่นมาอุ้มบุญได้ แต่ปัญหาคือบ้านซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของโลมาพันธุ์จีนนั้นได้หายไปแล้ว

.

13. นก Huia

.

นี่คือเจ้าของขนนกที่แพงที่สุดในโลกด้วยราคาถึงขนละ 300,000 บาท และพบเฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์นั้นมีซากของพวกมันเก็บไว้ดูต่างหน้าจำนวนมาก และมีโครงการว่าจะคืนชีพเจ้านกพันธุ์นี้อีกครั้ง ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการค้นหานกที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับมันอยู่

.

14. Neanderthal หรือ มนุษย์นีแอนเดอร์ธาล

.

นับเป็นแนวคิดสุดขั้วที่อาจกลายเป็นจริงได้ เพราะทั้งตัวอย่างดีเอ็นเอและแม่อุ้มบุญนั้นมีพร้อมอยู่แล้ว จะติดก็แค่ความเหมาะสมและจริยธรรมเท่านั้นที่ห้ามนักวิทยาศาสตร์ไม่ให้คืนชีพมนุษย์โบราณที่แม้จะมีระดับสมองต่ำ แต่มีพละกำลังมหาศาลกลับมาเดินบนโลกนี้อีกครั้ง

.

ที่มา : mnn

หากคุณชื่นชอบเรื่อง หมาๆ แมวๆ และสัตว์โลกน่ารัก ติดตามได้ที่แฟนเพจ Dog vs Cat แมวซ่าส์ หมาบ๊องส์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น