แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ามหัศจรรย์ น่ารัก และสามารถดึงความสนใจของคุณจากงานที่สำคัญที่คุณกำลังทำอยู่ได้ไม่ยาก แต่อะไรที่จะทำให้เจ้าแมวพวกนี้ดูพิเศษ? นั่นก็คือบุคลิกที่น่ารักและน่าเอ็นดูของพวกมัน หรือบางทีอาจจะเป็นตอนที่พวกมันทำเสียงครางเบาๆ บนตักของเรา หรืออาจจะด้วยเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้ผู้คนตกเป็นทาสแมว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพูดถึงเจ้าเหมียวสุดรักของเราเอง และวันนี้เราได้ทำการรวบรวมความจริง 15 ข้อที่ทำให้แมวกลายเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคนส่วนใหญ่
1.แมวสามารถทำเสียงที่แตกต่างกันกว่า 100 เสียง
หากเราเปรียบเทียบกับสุนัขที่สามารถทำเสียงเพียง 10 เสียง แน่นอนว่าไม่มีใครที่ไม่เคยได้แมวทำเสียงเหมียว เสียงครางในลำคอ เสียงกรน หรือเสียงร้องเรียก หรือแม้แต่เสียงร้องแหลมๆ ของพวกมันในตอนที่ต้องการอะไรสักอย่าง พวกมันยังมีเสียงร้องฟ่อๆ ในตอนที่พวกมันเห็นเหยื่อ หรือแม้แต่เสียงหอนที่สามารถใช้ได้ในทุกโอกาส
2. พวกมันสามารถจดจำเสียงของเจ้าของได้
แมวสามารถแยกแยะระหว่างเสียงของคนแปลกหน้า และเสียงของเจ้าของ อย่างไรก็ตามด้วยวิวัฒนาการกว่า 9,000 ปี พวกมันก็ยังคงมีสัญชาตญาณที่จะไม่ค่อยเชื่อฟังเจ้าของเหมือนสุนัข
3. แม้ว่าจะมีความเชื่อมากมายว่า “แมวดำ” เป็นสัญลักษณ์ของโชคร้าย แต่พวกมันก็ยังคงเป็นที่รักมากกว่าสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
ในภูมิภาคตอนกลางของประเทศอังกฤษ เชื่อว่าแมวดำเป็นของขวัญวันแต่งงานที่ดีที่สุด ในประเทศฝรั่งเศสเชื่อว่าการเลี้ยงแมวสีดำจะนำความโชคดีมาให้ หรือแม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นและประเทศในเอเชียอื่นๆ ที่เชื่อว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของการพยากรณ์
4. ในปัจจุบันมีแมวถึง 44 สายพันธุ์หลักบนโลกนี้
แต่ 3 สายพันธุ์ยอดฮิตยังคงได้แก่ แมวสายพันธุ์เปอร์เชีย, แมวสายพันธุ์เมนคูน (ที่เป็นไปไม่ได้ว่าคุณจะไม่หลงรักหูเล็กๆ ของพวกมัน) และแมวสายพันธุ์วิเชียรมาศ
5. แมวตัวแรกและแมวตัวเดียวที่ได้ขึ้นไปบนอวกาศชื่อว่า Félicette (หรืออีกชื่อว่า Astrocat) ซึ่งเป็นแมวสัญชาติฝรั่งเศส
เจ้า Félicette ถูกนำขึ้นไปบนอวกาศเมื่อปี 1963 และมันยังถูกฝังขั้วไฟฟ้าไว้ในสมอง เพื่อส่งสัญญาณกลับมายังโลก โชคดีที่มันได้กลับมายังโลกอย่างปลอดภัย!
6. แมวมีการได้ยินที่ดีกว่ามนุษย์และสุนัข
มนุษย์สามารถได้ยินเสียงที่ช่วงความถี่ 20 Hz – 20 kHz และสุนัขมีความสามารถในการได้ยินเสียงที่ความถี่ถึง 40 Hz ในขณะที่แมวสามารถได้ยินเสียงที่ความถี่ 64 kHz
7. แมวมีความว่องไวมาก
เพิ่มเติมจากที่พวกมันมีความสามารถในการได้ยินที่ยอดเยี่ยมแล้ว พวกมันยังสามารถวิ่งได้เร็วถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบได้กับมนุษย์ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกที่ชื่อว่า Usain Bolt ที่วิ่งได้เร็วถึง 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
8. การส่งเสียงครางเป็นเสียงปกติที่พวกแมวชอบทำ
อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงไม่มั่นใจในเรื่องนี้เท่าไรนัก แต่สัตวแพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่านั่นเกิดจากการสั่นสะเทือนของเส้นเสียงของแมว ซึ่งกล้ามเนื้อในกล่องเสียงจะมีการเปิดและปิดกั้นทางเดินหายใจในอัตรา 25 ครั้งต่อวินาที
9. ในแต่ละครั้ง แมวจะมีการคลอดลูกได้ตั้งแต่ 1 – 9 ตัว
ในปี 1970 แมวสายพันธุ์วิเชียรมาศจากออกฟอร์ดเชียร์ในประเทศอังกฤษ ได้คลอดลูกออกมาถึง 19 ตัว แต่มีลูกแมวที่รอดชีวิตเพียง 15 ตัว และนั่นได้ถูกบันทึกไว้เป็นสถิติโลกด้วย
10. แมวมีวิธีที่จะทำให้คุณรู้ได้โดยอัตโนมัติว่าใครเป็นเจ้านาย
หากแมวมีการถ่ายทิ้งไว้ นั่นหมายถึงพวกมันกำลังพยายามแสดงให้คุณรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้านาย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแมวตัวอื่นๆ อาศัยอยู่ในบ้านด้วย นั่นเกิดจากการต้องการที่จะประกาศอาณาเขตของมัน และแสดงให้เห็นถึงอำนาจเหนือแมวตัวอื่นๆ สัญลักษณ์อีกอย่างที่จะบอกว่าใครเป็นนายของพวกมันคือการที่พวกมันได้พยายามควบคลุมการเคลื่อนไหวทั้งหมดของคุณ
11. แมวมีสมองที่คล้ายมนุษย์มากกว่าสุนัข
สมองของแมวมีรอยหยักและโครงสร้างคล้ายกับของเรา และพวกมันยังมีการแบ่งส่วนการสั่งการของมองที่คล้ายกับของมนุษย์มาก
12. แมวได้เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่เมื่อ 30 ล้านปีก่อน
ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ Proailurus lemanensis หรือที่แปลว่า แมวตัวแรก ในภาษากรีก และแมวสายพันธุ์พื้นเมืองเกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อ 12 ล้านปีก่อน
13. แมวป่าที่ใหญ่ที่สุดก็คือ เสือสายพันธุ์ไซบีเรี่ยน
เสือสายพันธุ์ไซบีเรี่ยนสามารถมีลำตัวยาวได้ถึง 3.7 เมตร และหนักได้ถึง 318 กิโลกรัม นั่นมีขนาดพอๆกับรถยนต์หนึ่งคันเลยทีเดียว แมวที่ได้รับการรับรองว่าใหญ่ที่สุดคือแมวสายพันธุ์เมนคูน ซึ่งสามารถมีน้ำหนักได้มากถึง 11 กิโลกรัม นั่นถือว่าใหญ่เป็น 2 เท่าของแมวทั่วไป!
14. แมวมักไม่ชอบน้ำ
แมวไม่ชอบน้ำเพราะขนของมันไม่สามารถกันน้ำได้ แต่อย่างไรก็ตามยังมีแมวบางส่วนที่อาศัยอยู่ในเอเชียกลางที่ชื่นชอบการว่ายน้ำนั่นได้แก่สายพันธุ์เตอร์กิชแวน ที่มีลักษณะขนที่พิเศษที่สามารถกันน้ำได้
15. แมวสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดคือแมวอียิปต์เตียน โม
บรรพบุรุษแมวได้กำเนิดขึ้นบนโลกมากกว่า 4,000 ปี ซึ่งหากคุณเคยเดินทางไปยังประเทศอียิปต์ ที่พวกเขาเรียกแมวว่า “โม” ระวังอย่าสับสนกับคำว่า “เหมียว”
ที่มา : brightside