Others

5 สัตว์โลกที่มีชื่อชวนให้เข้าใจผิด ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

บนโลกนี้มีสัตว์หลากหลายมากมายหลานล้านชนิด และสัตว์บางชนิดถูกมนุษยตั้งชื่อขึ้นด้วยลักษณะภายนอกที่ดูคล้ายกับสัตว์ชนิดอื่นที่มีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน แต่เมื่อศึกษาไปถึงสายพันธุ์จริงๆ กลับพบว่าพวกมันอยู่คนละวงศ์ตระกูลกัน วันนี้ลองดู 5 สัตว์โลกที่มีชื่อชวนให้เข้าใจผิด ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน

1. Peacock Mantis Shrimp

เมื่อเอ่ยถึง “peacock mantis shrimp” หลายคนคงสงสัยว่า มันคือสัตว์ชนิดไหนกันแน่ระหว่างนกยูง ตั๊กแตน หรือกุ้ง แท้จริงแล้ว peacock mantis shrimp มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Odontodactylus scyllarus (O. scyllarus) เป็นสัตว์ขาปล้องจำพวกกั้ง สารานุกรมเสรีวิกิพีเดียเรียกชื่อกั้งชนิดนี้เป็นภาษาไทยว่า “กั้งตั๊กแตน 7 สี”

กั้งตั๊กแตน 7 สี มักอาศัยในรูรูปตัวยูที่มันสร้างขึ้นตามแนวปะการังในทะเลเขตร้อน กั้งชนิดนี้มีลำตัวยาวประมาณ 4-6 นิ้ว มีสีสันสดใส และมีระบบการมองเห็นที่ยอดเยี่ยม น่าสนใจว่านักสะสมสัตว์น้ำบางคนเห็นว่ากั้งชนิดนี้เป็นสัตว์สวยงาม แต่บางคนก็มองว่ามันเป็นนักล่าที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

ทั้งนี้เพราะกั้งตั๊กแตน 7 สีมีนิสัยก้าวร้าว ในขณะล่าเหยื่อมันจะใช้รยางค์ที่มีลักษณะเหมือนกำปั้นชกไปที่เปลือกแข็งของเหยื่อจนกว่าจะแตก จากนั้นจึงกินเนื้อนิ่มๆภายใน ว่ากันว่าหอยที่มีเปลือกเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแรงหรือแม้กระทั่งกระจกที่ใช้ทำตู้เลี้ยงปลาก็ยังไม่อาจต้านทานหมัดอันทรงพลังของมันได้

2. Maned Wolf

หมาป่าเคราขาวมีถิ่นอาศัยในอเมริกาใต้ เป็นสายพันธุ์เดียวของจีนัส Chrysocyon และไม่มีความใกล้เคียงกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ ที่มีอยู่เลย มันรอดพ้นจากการสูญพันธ์ครั้งใหญ่ในยุคไพลสโตซีนที่กวาดล้างสัตว์สายพันธุ์ใกล้เคียงและสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ให้หายไปจากอเมริกาใต้

จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2003 ได้จัดพวกมันไว้ในกลุ่มเดียวกับหมาป่าแห่งหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว (ไม่ใช่หมาป่าที่แท้จริงเหมือนกัน, สูญพันธุ์ในปี 1876) ตามสัณฐานวิทยา และงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2009 ยืนยันว่าทั้งสองสายพันธุ์มีความเกี่ยวข้องกัน โดยมีบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อ 6 ล้านปีก่อน

3. King Cobra

นอกจากรูปร่างที่เหมือนงูเห่า (Cobra) แต่ตัวใหญ่กว่ามาก รวมทั้งยังมีพิษทำลายระบบประสาทแบบเดียวกัน แต่ปล่อยออกมาได้ในปริมาณมากกว่าหลายเท่าแล้ว อีกสิ่งหนึ่งดูเหมือนจะทำให้ งูจงอาง ถูกตั้งชื่อแบบเท่ๆ ในภาษาอังกฤษว่า King Cobra นั้น อาจเป็นเพราะอาหารการกินของมันที่นิยมการกินงูด้วยกันเป็นพิเศษ และลีลาการกินของมันนั้นยังโหดร้ายอย่างมาก

เนื่องจากงูจงอางอาจไม่รอให้เหยื่อของมันเสียชีวิตก่อนที่จะกลืนลงท้อง แต่มันจะฉีดพิษเข้าไปจนเหยื่ออ่อนแรง และค่อยขยับขากรรไกรเข้าหาส่วนหัวของเป้าหมาย ก่อนจะงับและกลืนมันลงไปตั้งแต่หัวจรดหาง

4. Electric Eel

Electric Eel หรือปลาไหลไฟฟ้าเป็นปลาน้ำจืดที่อาศัยอยู่ในเเม่น้ำอะเมซอนเเละออริโนโคในอเมริกาใต้ ที่จริงเเล้วพวกมันไม่ใช่ปลาไหล มีเพียงรูปร่างเหมือนปลาไหล แต่จริงๆแล้วเป็นปลาในตระกูลปลากรายต่างหาก

ถึงปลาไหลไฟฟ้าจะไม่ใช่ปลาไหล เเต่ที่เเน่ๆ ก็คือมันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่อันตรายที่สุดในอเมริกาใต้ เจ้าปลาไหลไฟฟ้านั้นมี 3 อวัยวะพิเศษที่ผลิตกระเเสไฟฟ้าสูงถึง 500 โวลต์หรือมากกว่า และใช้ไฟฟ้านี้ในการป้องกันตัวเองและทำให้เหยื่อของพวกมันสลบ อาหารของมันคือปลาขนาดเล็กเเละสัตว์ตัวเล็กๆ

ข้อเท็จจริงน่ารู้

– ปลาไหลไฟฟ้าสร้างไฟฟ้าเพื่อจู่โจมเหยื่อ

– ปลาไหลไฟฟ้ามีอวัยวะสร้างไฟฟ้าชีวภาพ 3 อวัยวะคืออวัยวะซาชส์ อวัยวะหลัก และอวัยวะในการล่าเหยื่อ

– ปลาไหลไฟฟ้าสามารถช็อตไฟฟ้าได้ถึง 500 โวลต์ซึ่งมากพอที่จะฆ่ามนุษย์

– ไอออน เช่น โซเดียมคลอไรด์ ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลในน้ำได้ ปลาไหลไฟฟ้ามักจะมีขนาดตัวใหญ่กว่าเหยื่อของมัน และผิวของมันมีความต้านทานไฟฟ้าสูงกว่า ซึ่งเป็นหลักประกันว่าปลาไหลไฟฟ้าจะไม่โดนไฟฟ้าช็อตเสียเอง

5. Horned Toad

Horned Toad แปลตามตัวจะเป็นคางคกมีเขา แต่กลับกลายเป็นสัตว์เลื้อยคลานพวกเดียวกับกิ้งก่า มีรูปร่างตัวอ้วนป้อม ลำตัวสั้น หางสั้น แลดูคล้ายกบหรือคางคก มีลักษณะเด่น คือ มีหนามสั้น ๆ อยู่รอบลำตัวและส่วนหัว ซึ่งพัฒนามาจากเกล็ด ในส่วนที่เป็นเขาจริงๆ เป็นกระดูกแข็งมีอยู่ส่วนหัว

พวกมันกระจายพันธุ์อยู่ในพื้นที่แห้งแล้งที่เป็นทะเลทรายทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาต่อกับภาคเหนือของเม็กซิโก เช่น เท็กซัส และนิวเม็กซิโก มีพฤติกรรมที่อยู่เฉยๆนิ่งๆกับพื้น เมื่อเคลื่อนที่ก็ช้ากว่ากิ้งก่าทั่วไป หากินแมลงเล็กๆ เช่น มด ด้วยการนิ่งอยู่เฉยๆ แล้วตวัดกินเอา

กิ้งก่าหนามมีวิธีการป้องกันตัวที่นับได้ว่าหลากหลายและแปลกประหลาดมากอย่างหนึ่ง ในอาณาจักรสัตว์โลกทั้งหมด เมื่อถูกคุกคาม สามารถที่จะพองตัวขึ้นมาเพื่อให้หนามเล็กๆ บนตัวทิ่มแทงผู้รุกรานได้ รวมถึงการเปลี่ยนสีเพื่อพรางตัวกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นพื้นกรวดทรายหรือพุ่มไม้เตี้ยๆ ได้อย่างดีเยี่ยมและรวดเร็ว อีกทั้งยังมีเส้นขีดสีขาว 2 เส้น บนหลังที่ดูคล้ายกับกิ่งไม้หรือหญ้าแห้งๆอีกด้วย

ที่มา : wikepedia / worldanimal