“ปูมะพร้าว” คืออะไร? ถ้าพูดถึง “ปู” คงไม่มีใครไม่รู้จัก ปูมีอยู่หลายชนิดทั้งอาศัยในน้ำจืด น้ำเค็ม หรือบนบก “ปูมะพร้าว” เป็นปูบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด สามารถพบได้ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย วิวัฒนาการมาจากปูเสฉวนและปูยักษ์คิงแครบ ปูเหล่านี้เป็นปูที่มีเปลือกแข็ง ขาเป็นปล่องขนาดใหญ่ และก้ามอันทรงพลัง!!
ปูมะพร้าวที่โตเต็มวัยจะมีความยาว 40 เซนติเมตร แต่หากวัดความยาวจากปลายขาถึงปลายขาจะมีความยาวถึง 1 เมตร มีน้ำหนักอยู่ที่ 4.5 กิโลกรัม
ตัวที่โตเต็มวัยจะมีสีม่วงอ่อนไปจนถึงสีม่วงแก่และสีน้ำตาลเข้ม สำหรับตัวที่เป็นวัยกำลังโตจะมีสีน้ำตาลพร้อมแถบสีดำบนขา
ปูมะพร้าวเป็นสัตว์ที่กินได้ทั่วไปทั้งผลไม้ ซากผลไม้เน่า ซากสัตว์เน่าเปื่อย และเพื่อเสริมสร้างเปลือกให้แข็งแรงมันยังสามารถกินเปลือกของปูได้ด้วย

เป็นที่รู้กันว่าปูมะพร้าวมีความสามารถใช้ก้ามที่ใหญ่โตของมันเจาะทะลุเปลือกมะพร้าวเพื่อกินเนื้อข้างในอย่างง่ายดาย ก้ามของปูมะพร้าวที่ใหญ่ที่สุดมีกำลังหนีบได้ถึง 742 ปอนด์
และมันยังฉลาดพอที่ทุ่นแรงในการแกะเปลือกมะพร้าวด้วยการทำให้มันหล่นจากต้นมะพร้าวก่อนที่มันจะใช้ก้ามทรงพลังเจาะเปลือกอีกที
แม้ปูมะพร้าวจะเป็นปูที่อาศัยอยู่บนบก แต่เวลาที่ตัวเมียจะวางไข่มันจะปล่อยไข่ที่สุกแล้วลงในทะเล และไข่เหล่านี้ก็จะฟักเป็นตัวอ่อนในทันที ตัวอ่อนเล็กๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจะเริ่มว่ายน้ำและกัดกินสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วในทะเล
หลังจากอยู่ในทะเลนาน 20 ถึง 30 วัน ตัวอ่อนจะเริ่มมีลักษณะคล้ายปูมากขึ้น มันจะขึ้นจากน้ำแล้วเข้าไปอาศัยในเปลือกหอยประมาณ 3 ถึ 4 สัปดาห์
จากนั้นมันก็จะสละเปลือกหอยทิ้งแล้วซ่อนตัวเองในทรายที่ชุ่มชื้นและร่างกายจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นปูมะพร้าวไซส์มินิ ปูมะพร้าวจะไม่สามารถว่ายน้ำได้อีกต่อไป
ขอบคุณที่มา : britannica และ bbc