สิ่งที่แน่นอนที่สุดของชีวิตคือความไม่แน่นอน เราอาจทำอะไรบางอย่างซ้ำๆ เป็นร้อยครั้งแต่ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันและไม่เป็นไปตามที่เคยคาดหวัง อย่างเรื่องของเรือขุดทอง Hank Schimschat ที่ออกเดินทางขุดทองเป็นประจำตามปกติ แต่ครั้งนี้ มีสิ่งแปลกปลอมบางอย่างขึ้นมาเรือของเขาซึ่งเขาไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร และสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อตารางการเดินเรือที่เขาวางแผนมาอย่างดี
กว่า 100 ปีมาแล้วที่การขุดทองในแถบตะวันตกเฉียงเหนือของแปซิฟิกถือเป็นเรื่องธรรมดา ชายและหญิงส่วนมากที่เป็นกัปตันเรือขุดลอกเหล่านี้ได้เห็นเกือบทุกอย่างที่อยู่ในทะเล
วันหนึ่งในฤดูร้อนปี 2017 ระหว่างที่ Hank และลูกเรือกำลังทำงานขุดลอกน่านน้ำรอบๆ เมือง Nome ในอลาสก้าก็เกิดคลื่นลูกยักษ์ที่บังเอิญพัดพาสมาชิกใหม่สู่เรือ Au Grabber มันคือลูกวอลรัสแสนน่ารักที่หยุดสายตาทุกคู่บนเรือ
บริเวณโดยรอบไม่มีวี่แววของแม่วอลรัสและลูกวอลรัสก็โตเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ มันกลายเป็นที่รักของ Hank รวมถึงลูกเรือทุกคนและมันชอบเดินตามคนไปรอบๆเรือ
วอลรัสเป็นสัตว์สังคมและอยู่รวมกันเป็นฝูง ลูกเรือจึงคิดว่าน่าจะดีที่สุดถ้าพวกเขาปล่อยลูกวอลรัสกลับสู่มหาสมุทรซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของวอลรัส แต่ลูกวอลรัสไม่ยอมกลับลงไปในมหาสมุทร อาจเป็นเพราะมันผูกพันกับพวกเขาไปซะแล้ว
นักล่าทองรู้ดีว่าลูกวอลรัสต้องการการดูแลมากกว่าที่พวกเขาจะรับมือได้ Hank จึงติดต่อไปที่ Alaska Sea Life Center (ASLC) และด้วยความช่วยเหลือจาก Gay Sheffield นักช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลทำให้ลูกวอลรัสถูกส่งตัวไปเมือง Anchorage เมืองที่ใหญ่และมีเครื่องมือแพทย์ที่ครบครันที่สุดของอลาสก้าเพื่อตรวจร่างกาย
Sheffield และทีมงานของเธอประเมินว่าลูกวอลรัสน่าจะอายุราว 2 สัปดาห์และมันขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างรุนแรง เธอจึงให้ยาบำรุงพร้อมกับนมที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับลูกวอลรัสเพื่อให้สุขภาพของมันแข็งแรง
สิ่งที่ Sheffield แปลกใจที่สุดคือในความเป็นจริงลูกวอลรัสมักจะอยู่กับแม่กระทั่งอายุ 2 ปี แม้จะไม่รู้สาเหตุของการ พลัดพรากของลูกวอลรัสแต่เธอเชื่อว่าแม่ของมันอาจกลายเป็นเหยื่อของนักล่าไปแล้ว
ระหว่างที่ลูกวอลรัสใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูร่างกายทีมงาน ASLC ก็เจอกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากลูกวอลรัสมีความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับมนุษย์จนมันไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาติได้อีก
และแทนที่จะส่งมันกลับคืนมหาสมุทรลูกวอลรัสก็ถูกแยกตัวไปอยู่ในบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ใหญ่เกินพอสำหรับเด็กตัวใหญ่อย่างลูกวอลรัสและมันจะได้เล่นสนุกทั้งวัน
ระยะเวลาผ่านไปลูกวอลรัสเติบโตขึ้นมากและเจ้าหน้าที่ของ ASLC ก็ตระหนักดีว่าพวกเขาไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการแลลูกวอลรัสที่โตเป็นหนุ่มและมันต้องการบ้านที่พร้อมจะดูแลมันไปตลอดชีวิต
ในระหว่างหาบ้านใหม่ให้วอลรัสหนุ่มเจ้าหน้าที่ ASLC ก็เปิดให้สังคมออนไลน์ช่วยกันตั้งชื่อให้ ประชาชนโหวตให้มันชื่อ Aku ตามสถานที่ที่พบมันคืออลาสก้าและตัวสุดท้ายของชื่อเรือเพื่อเป็นเกียรติในฐานะที่พวกเขาคือคนแรกที่พบและช่วยชีวิตมันไว้
ในเดือนตุลาคม 2017 เจ้าหน้าที่ ASLC ก็เปิดเผยว่าในที่สุดพวกเขาก็หาบ้านให้กับ Aku ได้แล้ว โดยมันจะได้ย้ายไปอยู่ภายใต้การดูแลของ SeaWorld Orlando ซึ่งเป็นสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีขนาดมหึมา
เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SeaWorld จับคู่ Aku กับวอลรัสอีกตัวชื่อ Ginger โดยหวังให้ทั้งคู่เติบโตและสร้างฝูงวอลรัสเล็กๆ ของตัวเอง
แน่นอนว่าไม่นานนัก Aku และ Ginger ก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว และไม่สามารถแยกจากกันได้ ขณะที่ทั้งคู่เริ่มเล่นสนุกและสำรวจบ้านใหม่ก็ทำเอาผู้เข้าชมต่างหลงใหลในความน่ารักของพวกมัน
นี่คือภาพของ Aku ในเดือนสิงหาคม 2018 ที่กำลังนั่งฉลองวันเกิดปีแรกของมัน เรามาส่งคำอวยพรให้มันมีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุขในบ้านตลอดไปกัน ^^
ขอบคุณที่มา : honesttopaws