กระรอกต้นไม้ เป็นกระรอกที่มักพบเห็นได้บ่อยและคุ้นเคยกันดี มีหางยาวเป็นพวงสวยงาม มีกรงเล็บแหลมคม และมีใบหูใหญ่ บางชนิดมีปอยขนที่หู ส่วนกระรอกบินนั้น จะมีพังผืดข้างลำตัว สำหรับกางเพื่อร่อนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง มักเป็นหากินในตอนกลางคืน มีตาสะท้อนแสงไฟ กระรอกดิน มักจะมีรูปร่างสั้น และล่ำสันกว่ากระรอกต้นไม้ มีขาหน้าแข็งแรงใช้สำหรับการขุดดิน
หางของกระรอกดินนั้นจะสั้นกว่าหางของกระรอกต้นไม้ และไม่ฟูเป็นพวงนัก และเช่นเดียวกับสัตว์ฟันกัดแทะชนิดอื่น ๆ กระรอกจะมีนิ้วเท้าหลังข้างละ 5 นิ้ว และ นิ้วเท้าหน้าข้างละ 4 นิ้ว ตรงส่วนที่น่าจะเป็นนิ้วโป้งจะกลายเป็นปุ่มนูน ๆ ซึ่งถูกพัฒนาให้เหมาะสำหรับจับอาหารมาแทะ
ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูแห่งชีวิตซึ่งแม่กระรอกจะให้กำเนิดลูกตัวน้อยในรัง ซึ่งกล้องถูกซ่อนไว้ร่วงหน้าทำให้เห็นเหตุการณ์หาดูยากนี้
รังของกระรอกที่อยู่ในต้นไม้ใหญ่ และลูกๆของมันก็พร้อมที่จะออกมาดูโลกใบนี้ สังเกตได้จากลักษณะการดิ้นไปมาของแม่กระรอก
สำหรับแม่กระรอกก็เจ็บเหมือนกับแม่สัตว์ตัวอื่นๆ เพราะกว่าจะให้กำเนิดลูกออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย มันจะต้องหาท่านอนที่สบายที่สุดเพื่อให้ผ่อนคลายกับสถานการณ์นี้
แม่กระรอกดูเหมือนจะกระวนกระวายมากขึ้น และไม่นานนักลูกตัวแรกก็โผล่ออกมาสู่โลกภายนอกได้สำเร็จ
ออกมาถึงก็หม่ำๆเลย
หลังจากนั้นแม่กระรอกก็เปลี่ยนท่าทางให้สบายขึ้น และพร้อมที่จะให้กำเนิดลูกตัวที่สองแล้ว
แม่กระรอกเฝ้าดูการให้กำเนิดลูกของมันด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่งเต็มไปด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ ก่อนที่ลูกตัวอื่นๆจะตามออกมาทั้งหมด 4 ตัว และคุณแม่ที่เหนื่อยล้าก็นอนหลับพักผ่อนได้ซักที
เมื่อเวลาผ่านไป ลูกกระรอกเหล่านี้ก็เติบโตขึ้นสวยงามและน่ารักสุดๆไปเลยล่ะ
ที่มา : Animalsnews