หากคุณเป็นคนรักแมวคุณจะรู้ว่าแมวแต่ละตัวมีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่ดื้อรั้น หีือเป็นมิตร หรือเป็นทั้งหมดที่กล่าวมา บางตัวคึกคักเล่นได้ทั้งวันทั้งคืนในขณะที่บางตัวแค่นั่งๆ นอนๆ ไปวันๆ แต่ไม่ว่าคุณจะมีแมวแบบไหนเราเชื่อว่าพวกมันมีความน่ารักในแบบฉบับของตัวเอง
เราได้รวบรวมสายพันธ์ุแมวที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักพร้อมลัษณะเฉพาะตัวที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน รับรองว่าน่าสนใจและไม่น่าเบื่อแน่นอน
1. American Curl : แมวสายพันธ์ุอื่นอาจมีหูพลิกออกด้านนอกด้วยวิธีการที่ไม่ได้เกิดโดยธรรมชาติ แต่สำหรับแมวพันธ์ุนี้มีลักษณะเด่นที่ใบหูโค้งงอพลิกออกด้านนอกตามธรรมชาติ เมื่อตอนเด็กหูของพวกมันจะตรงและพอเริ่มโตขึ้นหูจะค่อยๆ โค้งงอขึ้นเรื่อยๆ
2. ขาวมณี : แมวสีขาวโพลนของเมืองไทยที่มีชื่อเปรียบเสมือนอัญมณีมีค่าพร้อมนัยน์ตาสีสวย แมวพันธ์ุนี้จะมีนัยน์ตาสองสีถ้าขาวมณีตาสีฟ้าผสมพันธ์ุกับขาวมณีตาสีอำพัน
3. Devon Rex : ชื่อของแมวพันธ์ุนี้บ่งบอกถึงต้นกำเนิดของพวกมันอย่างชัดเจน พวกมันมาจากมณฑล Devon ย่านพักอาศัยของผู้ดีอังกฤษ Devon Rex อาจดูหัวโล้นและไร้ขนแต่จริงๆ พวกมันมีขนสั้นเป็นลอนปกคลุมตัวอยู่ พวกมันมีนิสัยต่างกับแมวพันธ์ุอื่นสุดขั้ว ด้วยความฉลาดหลักแหลมและซุกซนเกินบรรยายทำให้พวกมันถูกเปรียบเหมือน “ลิงในร่างแมว”
4. Savannah : นี่ไม่ใช่เสือชีตาห์แต่มันคือแมว! แมวสายพันธ์ุนี้ถือกำเนิดขึ้นโดยการผสมข้ามสายพันธ์ุระหว่าง African Serval กับแมวบ้าน พวกมันมีใบหูและรูปร่างไม่เหมือนใครซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นและพวกมันสามารถตัวโตได้ถึง 11 กิโลกรัมซึ่งโตได้มากกว่าแมวบ้านถึง 2-3 เท่า
5. Selkirk Rex : แมวพันธ์ุนี้มีต้นกำเนิดใน Montana ได้ราว 30 ปี โดยถือกำเนิดมาจาก Selkirk Rex ตัวแรกที่มีชื่อว่า Miss DePesto และได้รับการเพาะพันธ์ุจากนักเพาะพันธ์ุแมวเปอร์เซียชื่อ Jeri Newman พวกมันมีใบหน้ากลมแบนและขนหยิกยาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเป็นเอกลักษณ์ที่น่ารักไม่เหมือนใคร
6. Munchkin : ชื่อนี้ช่างเหมาะสมกับพวกมันมากจริงๆ เนื่องจากขาเล็กๆ สั้นๆ กับความกระตือรือร้นที่ดูซุกซนและท่าทางการเดินโยกเยไปมา แมวพันธ์ุนี้กำเนิดขึ้นจากการเพาะพันธ์ุที่เกิดความผิดปกติทาง DNA แต่เป็นความผิดปกติที่น่ารัก ชื่อ Munchkin ถูกตั้งตามตัวละครซึ่งเป็นคนแคระในเรื่อง The Wonderful Wizard of Oz และพวกมันยังได้รับฉายาว่า “แมวไส้กรอก” อีกด้วย
7. Sphynx : แรกเริ่มแมวพันธ์ุนี้ถือกำเนิดขึ้นด้วยการกลายพันธ์ุของแมวไร้ขนในแคนาดา ต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังทำให้ผิวของพวกมันเปลี่ยนสีและแม้พวกมันจะขึ้นชื่อว่าเป็นแมวไร้ขนแต่พวกมันมีขนที่สั้นมากๆ คล้ายหนังกลับ และถ้าคุณเลี้ยง Sphynx คุณจะต้องภูมิใจเพราะพวกมันถูกตั้งชื่อตามรูปปั้นอียิปต์โบราณครึ่งแมวครึ่งคน
8. Scottish fold : พวกมันเป็นแมวอวบอั๋นขนนุ่มฟูและเป็นนักปรับตัวชั้นเยี่ยม ด้วยดวงตากลมโตกับใบหูขนาดเล็กทำให้พวกมันถูกเปรียบเทียบกับนกฮูก แต่ Scottish fold เป็นมิตรอย่างเหลือเชื่อกับมนุษย์
9. Japanese Bobtail : หางสั้นๆ ของพวกมันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกส่งผ่านพันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่น แม้ว่าแมวส่วนใหญ่จะใช้หางเพื่อช่วยทรงตัวระหว่างปีนป่ายหรือกระโดด แต่สำหรับ Japanese Bobtail พวกมันกลับแข็งแรงและคล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อและพวกมันก็เป็นสายพันธ์ุที่นิยมมากในญี่ปุ่น
10. Lambkin : เป็นแมวสายพันธ์ุหายากและจัดเป็นสายพันธ์ุใหม่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ชื่อของพวกมันถูกเรียกตามรูปลักษณ์โดยขาที่สั้นเหมือน Munchkin และขนที่เหมือนขนแกะของพวกมันจึงรวบเป็น Lambkin
11. Pixie-bob : ในปีค.ศ.1986 หญิงคนหนึ่งในวอชิงตันได้ช่วยแมวตัวผู้ตัวหนึ่งซึ่งตัวใหญ่มากและมีหางสั้น มันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น bobcat เมื่อมันผสมพันธ์ุกับแมวของเพื่อนบ้านหญิงคนดังกล่าวขอเก็บลูกแมวมาเลี้ยงหนึ่งตัวและตั้งชื่อว่า Pixie เมื่อมีการขยายพันธ์ุจึงเรียกพวกมันว่า Pixie-bob
12. Russian Blue : ขนของแมวพันธ์ุนี้เป็นสีเทาเงางาม แต่หากอยูในแสงบางชนิดขนของพวกมันจะกลายเป็นสีน้ำเงิน ดูเผินๆ พวกมันอาจดูหยิ่งและดุแต่ความจริงพวกมันใจดีและอ่อนโยนผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก พวกมันยังส่งเสียงร้องเกือบตลอดเวลา ดังนั้นหากคิดจะเลี้ยง Russian Blue ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมกับตัวคุณและสภาพแวดล้อมด้วย
ขอบคุณที่มา : honesttopaws