นายรำยง นิยมพงษ์ ชาวบ้านไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าของปัจจุบันของพิงกี้ เล่าว่า เมื่อราว ๆ 19 ปีที่แล้ว ภรรยาของตนทำงานกับชาวเกาหลีซึ่งเป็นเจ้าของเดิมและทิ้งสุนัขตัวนี้เนื่องจากไม่สามารถเลี้ยงดูได้อีกต่อไป ตนและภรรยาจึงได้รับเลี้ยงพิงกี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
พิงกี้ใช้ชีวิตกับครอบครัวใหม่ซึ่งมีสุนัขอีก 2 ตัวและแมว 2 ตัว ซึ่งล้วนเป็นสัตว์ที่เคยถูกทอดทิ้ง ในช่วง 2-3 ปีหลังนี้ พิงกี้ซึ่งอายุมากแล้ว เคยป่วยเป็นต้อกระจกและมีเลือดออกที่ตาขวา ร่างกายของพิงกี้ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอีกต่อไป ทำให้จำเป็นต้องรักษาด้วยการนำลูกตาขวาออก นอกจากนี้ยังเริ่มมีอาการไตวายและพบก้อนเนื้อที่ขาหนีบด้านขวา ด้วยอายุที่มากจึงมีความเสี่ยงสูงหากใช้การวางยา ทีมแพทย์จึงตัดสินใจไม่ผ่าตัดก้อนเนื้อดังกล่าวและรักษาอาการไตวายด้วยการให้น้ำเกลือ ปัจจุบันพิงกี้ยังคงได้รับน้ำเกลืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายรำยงจะพาไปพบสัตวแพทย์ทุกสัปดาห์
สัตวแพทย์ประจำของมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยให้ความเห็นว่า ถ้าเทียบกับอายุขัยของคน ขณะนี้พิงกี้จะมีอายุราว ๆ 90 ปี ซึ่งสุนัขในวัยนี้เป็นช่วงวัยชรา จะเคลื่อนไหวตัวช้าลง และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน อวัยวะบางส่วนจะทำงานได้ไม่เต็มที่อีกต่อไป แต่พิงกี้ก็ถือว่าเป็นสุนัขอายุมากที่สุขภาพโดยรวมยังแข็งแรงเมื่อเทียบกับเพื่อน ๆ ในช่วงวัยเดียวกัน
สำหรับการดูแลพิงกี้นั้น คุณรำยงให้กินอาหารวันละ 3 มื้อ โดยเป็นอาหารปรุงเองเช่น ไก่ต้ม ปลาต้ม ไข่เจียว โดยเมนูที่พิงกี้ชอบกินคือข้าวต้มหมู และจะพาไปเดินออกกำลังกายบริเวณสวนรอบบ้านทุกวัน คุณรำยงและภรรยากล่าวทิ้งท้ายว่า
“เมื่อตัดสินใจเลี้ยงสุนัขหรือแมวแล้ว ควรรับผิดชอบและดูแลพวกเขาไปตลอดชีวิต แม้พิงกี้จะมีอายุมากและมีปัญหาสุขภาพหลายประการ ตนและภรรยาก็ไม่เคยคิดทอดทิ้งแต่อย่างใด” ซึ่งคุณรำยงยังฝากถึงเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคนว่า ให้พาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนตามกำหนด เพื่อสุขภาพของสัตว์และความปลอดภัยของผู้เลี้ยงเอง
ขอบคุณที่มา : มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย
