เธอไม่ได้พยายามที่จะทำให้ Green เชื่อง ตรงกันข้ามเธอปล่อยให้มันวิ่งเล่นได้อย่างอิสระในแถบนอกเมืองและบนดาดฟ้าของที่พักของเธอ แต่กลับเป็นการยากขึ้นเรื่อยๆที่จะซ่อนมันในแถบละแวกที่พัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเริ่มที่จะเรียนรู้วิธีการหอนหลังจากฟังเสียงหอนของหมาป่าที่หลี่บันทึกเอาไว้ แต่เสียงหอนของ Green ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอสามารถแยกออกได้ว่าหมาป่าตัวไหนคือ Green
“ในตอนนั้นเองที่ฉันเห็นชีวิตสัตว์ป่าที่ขัดแย้งกับความเจริญในเมือง” หลี่ย้อนความหลัง เธอจำต้องขังมันไว้บนดาดฟ้าซีเมนต์แต่ทว่า พื้นที่บนดาดฟ้ากลับถูกใช้เป็นที่ตั้งของจอ LED เธอจึงรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่เธอต้องพา Green กลับไป หลี่ค้นคว้าอย่างหนักเกี่ยวกับการปล่อยหมาป่ากลับคืนสู่ธรรมชาติ ในที่สุดเธอตัดสินใจที่จะพามันไปทุ่งหญ้า Zoige เพื่อเทรนและปล่อยมันไปในที่สุด ตอนนั้น Green อายุได้สองเดือนครึ่ง
จนกระทั่งในเดือนตุลาคมปี 2010 หลี่และกรีนออกเดินทางพร้อมกันครั้งแรกเพื่อไปตามหาฝูงหมาป่า ทว่าล้มเหลวเมื่อ Green พยายามพาหมาป่าตัวหนึ่งกลับมาหาหลี่ ผู้ซึ่งมันไว้วางใจ ทำให้ Green โดนกัดเป็นแผลสาหัสที่ไหล่
ต่อมาในช่วงหน้าหนาวเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ถือเป็นช่วงเวลาออกล่าสำหรับฝูงหมาป่า และจะต้องการสมาชิกใหม่เพื่อมาช่วยล่า ตอนนี้ Green อายุได้ 8 เดือนพอดี สามารถไล่ล่าได้แต่จะไม่เป็นภัยต่อหมาป่าที่อายุมากกว่า ดังนั้นการยอมรับ Green เข้าฝูงน่าจะเป็นเรื่องง่าย ครั้งนี้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จ Green วิ่งไปรวมกับฝูงและไม่ได้กลับมาอีก
ในเดือนพฤษภาคม 2011 คนเลี้ยงสัตว์เพื่อนของหลี่ที่ชื่อว่าทาชิพบ Green กำลังกินเนื้อเค็มที่เขาทิ้งไว้แถวคอกสัตว์เป็นพักๆ โดยตั้งใจล่อให้มันมาหาเพื่อบันทึกว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แต่พอหลี่ที่ตอนนี้อาศัยอยู่ที่เฉิงตูมาถึง Zoige Green มันก็จากไปแล้ว เธอได้แต่มองภาพถ่ายที่ทาชิถ่ายเอาไว้ได้และเศษอาหารที่มันกินเหลือไว้เท่านั้น
ในปี 2014 หลี่ได้พบกับ Green อีกครั้งด้วยความบังเอิญ มันเห็นเธอแล้ววิ่งมาหา เอาตัวมาถูไถ และเลียหน้าเธอด้วย เธอกอดเจ้าหมาป่าที่เธอได้เลี้ยงมาเป็นระยะเวลา 10 เดือน และผ่านมา 4 ปีมันยังคงไม่ลืมเธอ ซึ่ง Green มาพร้อมกับคู่ครองและลูกของมัน ซึ่งเธอเชื่อว่าการเชื่อมต่อทางจิตใจของเธอกับ Green จะยังคงอยู่ตลอดไป