10 พฤติกรรมของมนุษย์ ที่ทำให้สุนัขอายุสั้นลงแบบไม่รู้ตัว -

ช่วยให้สุนัขคุณมีอายุยืนยาวต่อไปด้วยบทความนี้ พวกเราคิดว่าสัตว์เลี้ยงของเรามีสุขภาพที่ดี ได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว ทั้งการกินอาหารที่เราศึกษามาเป็นอย่างดีมีคุณภาพชั้นนำ หรือว่าการพาไปออกกำลังกายวิ่งเล่นในสวนสาธารณะ แน่นอนที่สุดมันดีจริงๆ

แต่ว่าในการดำเนินชีวิตบนโลกใบนี้มีเรื่องวุ่นวายมากมายที่อาจทำให้คุณหลงลืม และมองข้ามบางอย่างง่ายๆไปที่สามารถทำให้อายุของเจ้าตูบยืนยาวมากยิ่งขึ้น

ข่าวดีก็คือตอนนี้มันก็ยังสามารถแก้ไขได้ และเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสุนัขของพวกเรา จึงได้รวบรวมข้อมูลของ 11 สิ่งที่คุณไม่ได้ตั้งใจให้ชีวิตสุนัขคุณสั้นลงมาให้อ่านกันครับ

1. ปล่อยให้สุนัขคุณมีน้ำหนักมากเกินไป

จากข้อมูลของสมาคมเพื่อการป้องกันสัตว์เป็นโรคอ้วน มีสุนัขที่มีน้ำหนักเกินประมาณ 53% ของสุนัขทั้งหมด และสุนัขที่มีโรคอ้วนเหล่านี้ไม่มีความรู้เรื่องอันตรายจากโรคอ้วนของสุนัขถึง 95% การปล่อยให้มีน้ำหนักเกินไม่เพื่อลดอายุขัยของสัตว์ลง แต่ยังทำให้เขาใช้ชีวิตประจำวันอย่างยากลำบากด้วย

การแก้ไข คือ การจำกัดปริมาณการให้อาหารแต่พอดีตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข หากเป็นสุนัขที่โตแล้วให้ค่อยๆลดปริมาณลง ควบคู่กับการพาออกไปวิ่งกำลังกายให้มากขึ้น หากไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำได้อย่างถูกต้องหรือไม่แล้ว ควรปรึกษาสัตว์แพทย์ใกล้บ้านคุณก่อนที่จะนำไปปฏิบัติตามครับ

2. ละเลยการดูแลสุขภาพฟัน

โรคปริทันต์ (โรคเหงือก) เป็นปัญหาที่พบบ่อยในสุนัข จากรายงานของสังคมสัตวแพทย์มนุษยธรรมอเมริกาคาดว่าร้อยละ 85 ของสุนัขให้ช่วงอายุถึง 5 ปี ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคนี้ เพราะว่าจากการกินอาหารและกักเก็บแบคทีเรียต่างๆไว้ในช่องปากซึ่งนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ ทั้งปัญหาลิ้นหัวใจและการติดเชื้อภายในไต

การแก้ไข สำคัญที่สุดคือการแปรงฟัน คุณจะใช้แปรงสีฟันเด็กก็ได้ สามารถแปรงได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ ในปัจจุบันมีของเล่นเคี้ยวและกระดูกที่ช่วยลดคราบจุลินทรีย์ลงได้ และอย่างน้อยควรพบสัตว์แพทย์เพื่อรวจเช็คเกี่ยวกับสุขภาพในช่องปากอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

3. ไม่ไปตรวจสุขภาพประจำปี

การตรวจประจำปีนั้นสำคัญมาก เพราะว่าเราจะได้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงหรือว่ามีสัญญาณอันตรายเกิดขึ้นก่อนหรือไม่ นั้นอาจหมายถึงการช่วยชีวิตของสุนัขของเราได้เลยหากได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและทันเวลา ซึ่งโรคบางชนิดก็ไม่แสดงอาการออกมาภายนอก มันกักเก็บอยู่ข้างในและเมื่อมันระเบิดออกมาวันนั้นอาจจะสายไปแล้วก็ได้

วิธีการแก้ไข ง่ายๆเลยครับ พาไปตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป พร้อมกับฉีดวัคซีนต่างๆที่มันควรจะได้รับอยู่เสมอ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคหัด เป็นต้น

4. ไม่พาไปวิ่งเล่นออกกำลังกาย

เพียงเพราะว่าสุนัขคุณไม่ขี้เล่นหรือว่าไม่ชอบการออกกำลังกาย ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถที่จะปล่อยปะละเลยได้ การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว แต่เป็นการยกระดับจิตใจของสุนัขให้ดีขึ้น รวมไปถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับคุณ ทำให้พวกคุณทั้งคู่มีควาสนิทกันมากขึ้นด้วย

การแก้ไข หากิจกรรมที่เหมาะกับสุนัขของคุณ และรู้สึกเพลิดเพลินที่ได้ทำมัน ถ้าคุณไม่มีเวลาไปสวนสาธารณะทุกวัน ก็พามันเดินรอบบ้าน ในหมู่บ้าน หรือที่ได้ก็ได้ครับ พาไปเดินเล่นแล้ว อย่าลืมเก็บอึกันด้วยนะครับ

5. สูบบุหรี่เมื่ออยู่กับสุนัข

ปอดยังสุนัขไม่สามารถจัดการกับกลิ่นบุหรี่ได้ เช่นเดียวกับมนุษย์ เช่นเดียวกับถ้าเพิ่งสูบบุหรี่เสร็จแล้ว กลิ่นก็จะติดมือก็ไม่ควรไปเล่นกับสุนัขเช่นเดียวกัน ควรล้างให้สะอาดก่อน ซึ่งควันบุหรี่เป็นต้นเหตุให้สุนัขคุณเสี่ยงโรคร้ายต่างๆมากมาย เช่น โรคมะเร็ง และปัญหาระบบทางเดินหายใจ

การแก้ไข ก็ไม่ง่ายนะ ถ้าให้ดีที่สุดต่อสุนัขและตัวคุณเองคือเลิกสูบบุหรี่ซะ แต่ถ้าเลิกไม่ได้จริงๆก็แค่หลีกเลี่ยงที่จะสูบบุหรี่ภายในบ้านหรือเวลาเล่นกับสุนัขครับ

6. ไม่สนใจเกี่ยวกับการกำจัดเรื่องเห็บหมัด

เหล่าสัตว์เลื้อยคลานหรือเห็บหมัดเป็นแหลง่เพราะเชื้อโรคและกระจายอย่างรวดเร็ว เช่น พยาธิหัวใจ และโรคบางอย่างอันตรายถึงชีวิตด้วย โชคดีที่ปัจจุบันนี้มีวิวัฒนาการหลายอย่างที่ป้องกันเห็บหมัดได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยาแบบรับประทาน ยาฉีด และปลอกคอกันเห็บหมัด

การแก้ไข หมั่นอาบน้ำและตรวจสอบสุนัขคุณอย่างสม่ำเสมอ และใช้ผลิตภัณฑ์การกำจัดเห็บหมัดที่ได้มาตรฐาน โดยเข้ารับการรักษาเป็นประจำอยู่เสมอ

7. ขาดความรู้เรื่องธรรมชาติของสายพันธุ์ในการออกกำลังกาย

สุนัขแต่ละสายพันธุ์มีธรรมชาติการดำรงชีวิตที่ต่างกัน เช่น สุนัขสายพันธุ์ที่จมูกสั้น ต้องการการออกกำลังกายมากกว่าชนิดอื่น หรือ อิงลิชบลูด็อก เฟร์นบลูด็อก ปักกิ่ง และบ็อกเซอร์ ไม่ควรออกกำลังกายในสถานที่ที่มีความร้อนสูง

การแก้ไข : ศึกษาเรื่องสายพันธุ์ของสุนัขหรือปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับประเภทของการออกกำลังกายที่เหมาะกับสุนัขสายพันธุ์ที่คุณเลี้ยง ถ้าสุนัขคุณแสดงอาการผิดปกติออกมาเช่น หอบหรือหยุดทำกิจกรรมกะทันหัน ให้เราหยุดและช่วยเหลือพวกมันทันที

8. การให้เศษอาหารเมื่อเวลาคุณรับประทานอาหาร

นอกเหนือจากมื้อปกติของสุนัขแล้ว เราไม่ควรให้อาหารที่ไม่ใช่ช่วงมืเอเวลาของมัน รวมไปถึงอาหารของมนุษย์บางชนิดเป็นพิษต่อสุนัขก็มี อีกทั้งสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับอ่อนอักเสบอีกด้วย

การแก้ไข ถ้ามันส่งสายตาเว้าวอนอยากกินเสียเหลือเกิน คุณก็ต้องใจแข็งกันบ้างเพื่อสุขภาพของสุนัขของคุณ แต่ถ้ามันเบื่ออาหารของพวกมันเอง ก็ต้องหาสาเหตุก่อนว่าป่วยหรือว่าอย่างไร เราอาจจะเปลี่ยนอาหารอื่นๆดูยี่ห้อที่มีคุณภาพครับ และควรหาความรู้ว่าอาหารใดเป็นอันตรายต่อสุนัขด้วยนะครับ

9. ปล่อยให้สุนัขคุณไปข้างนอกโดยไม่ดูแล

ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใหญ่นะครับ นอกจากสุนัขบางตัวที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว บางทีไปสร้างภาระให้กับบุคคลอื่นๆอีกด้วย อย่าคิดว่าปลอกคอหรือการฝังไอดีติดตามมันจะช่วยสุนัขคุณได้ เราเห็นหลายๆข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการทรมานสัตว์เยอะแล้วครับ

การแก้ไข การใช้สายลากนั้นปลอดภัยที่สุด เพราะว่าเราสามารถควบคุมสุนัขได้ ปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบมากๆให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสายพันธุ์ และถ้าเจอสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่อาจจะทำร้ายมันได้ ให้หลีกเลี่ยงสถานการณ์อันตรายก่อนที่คุณจะไม่สามารถแก้ไขมันได้ทันที

10. ปล่อยให้มันอยู่คนเดียว

สุนัขตัวใดไม่มีสังคมหรือการปฏิสัมพันธ์กัน จะทำให้เกิดนิสัยดุร้าย หวาดระแวง หรืออาจจะซึมเศร้าไปเลยก็ได้ แล้วแต่สายพันธุ์ พวกเขามักจะมีความวิตกกังวลต่างๆ ไม่มีความอยากเล่นหรือทำกิจกรรมใดๆ และไม่สามารถรับแรงกดดันใดๆได้เลย

การแก้ไข พาสุนัขออกทำกิจกรรมตั้งแต่ยังเล็กๆ และเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆบ้าง เพื่อเป็นการสร้างสังคมให้กับสุนัข และสร้างความสัมพันธุ์ที่ดีระหว่างสุนัขกับคุณด้วย