ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีสิ่งมีชีวิตทั้งหมดกี่ชนิดในโลก อย่างไรก็ตามนักชีววิทยาหลายท่านได้ทำการคาดคะเนจำนวนทั้งหมดที่มีในปัจจุบันมากหลายล้านชนิดเลยทีเดียว เชื่อเถอะว่าบนโลกมนุษย์ยังมีสัตว์ที่มีหน้าตาแปลกๆที่เรายังไม่เห็นอยู่เยอะ ยิ่งใต้ท้องทะเลยังมีอีกหลายพื้นที่บนโลก ที่มนุษย์ยังไม่เคยไปสำรวจเลยอีกมากมาย
วันนี้ลองชม 12 สัตว์โลกหาดูยากที่ทั้งชีวิตเราอาจไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเลยซักครั้ง พร้อมเกร็ดความรู้เล็กๆเป็นความรู้รอบตัวครับ
#1 Coconut Crabs หรือปูมะพร้าว
ปูมะพร้าว จัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เป็นสัตว์ที่วิวัฒนาการมาจากปูเสฉวน และเป็นสัตว์ขาปล้องขนาดใหญ่ที่สุดที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน กิตติศัพท์ที่ว่าปูมะพร้าวสามารถเจาะลูกมะพร้าวด้วยก้ามอันทรงพลังนั้นเป็นที่รู้จักกันดี ในบางครั้งปูมะพร้าวถูกเรียกว่าปูปล้น หรือปาล์มขโมย
ทั้งนี้เนื่องจากปูมะพร้าวมักจะขโมยข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่ส่องประกาย อย่างเช่น หม้อ หรือถ้วยสแตนเลส บางคนเรียกปูมะพร้าวว่า ปูเสฉวนบก แต่อันที่จริงนอกจากปูมะพร้าวแล้ว ยังมีปูชนิดอื่นอีกที่จัดได้ว่าเป็นปูเสฉวนบกเช่นกัน นอกจากนี้ ปูมะพร้าวอาจมีชื่อเรียกต่างกันไปอีกในแต่ละที่ เช่น ที่เกาะกวม เรียกปูมะพร้าวว่า อายูยู
#2 Scolopendra gigantea หรือ ตะขาบเปรูขาเหลือง หรือตะขาบยักษ์อเมซอน
ตะขาบยักษ์ขาเหลืองเปรู หรือ ตะขาบยักษ์อเมซอนเป็นตะขาบ “สปีชีส์” ชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสกุล Scolopendra โดยปกติเมื่อโตเต็มที่จะยาว 26 เซนติเมตรหรือประมาณ 10 นิ้ว แต่บางครั้งก็สามารถโตได้ถึง 30 เซนติเมตรหรือประมาณ 12 นิ้วเลยทีเดียว
ตะขาบชนิดนี้อาศัยอยู่ทางแถบเหนือและตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ และตามเกาะแก่งของประเทศตรินิแดดและจาไมกา เป็นสัตว์กินเนื้อ โดยกินจิ้งจก, กบ, นก, หนู และแม้แต่ค้างคาวเป็นอาหาร และขึ้นชื่อในเรื่องความดุร้าย
หอยกูอีดั๊ก เป็นหอยสองฝาที่พบในทะเลชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเด่นคือ มีเปลือกสีขาวยาวประมาณ 15–20 เซนติเมตร และมีท่อดูดซึ่งตอนปลายมีรู 2 รู แยกเป็นรูดูดอาหารและรูปล่อยของเสียรวมถึงสเปิร์มในตัวผู้ และไข่ในตัวเมีย ยื่นยาวออกมาจากเปลือกอย่างเห็นได้ชัด แลดูคล้ายงวงของช้าง ซึ่งอาจยาวได้ถึง 1 เมตร
หอยกูอีดั๊กจะอาศัยในทะเล โดยการฝังตัวใต้ทรายบริเวณชายฝั่งบริติชโคลัมเบียในมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา หากินโดยการกินสาหร่ายทะเลเป็นอาหาร เมื่อถูกจับขึ้นมา จะพ่นน้ำคัดหลั่งออกมาจากปลายท่อดูด
มันขยายพันธุ์ด้วยการที่ตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อออกมาปฏิสนธิพร้อมกับตัวเมียที่ปล่อยไข่ออกมาได้ราวครั้งละ 10 ล้านฟอง ลูกหอยขนาดเล็กจะขุดหลุมฝังตัวใต้ทรายในระดับที่ตื้น ๆ ก่อนที่จะขุดลึกลงไปเรื่อย ๆ ตามวัยที่โตขึ้น ซึ่งอาจลึกได้ถึง 110 เมตร นอกจากนี้แล้ว หอยชนิดนี้ยังมีอายุยืนได้ถึง 146 ปี นับเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่มีอายุยืนที่สุดของโลก โดยมีฤดูการขยายพันธุ์อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน–กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำมีอุณหภูมิค่อนข้างอุ่น
#4 Goblin Sharks หรือปลาฉลามก็อบลิน
เป็นปลาฉลามน้ำลึกที่พบเห็นตัวได้ยาก และมีรูปร่างลักษณะประหลาด อันเป็นที่มาของชื่อ และยังเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในวงศ์และสกุลเดียวกันนี้ก็ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน ถือได้ว่าเป็น “ซากดึกดำบรรพ์มีชีวิต” อีกชนิดหนึ่ง ที่มีรูปร่างแทบไม่แปรเปลี่ยนไปจากยุคก่อนประวัติศาสตร์
โดยที่ชื่อวิทยาศาสตร์นั้น ตั้งขึ้นมาจากชื่อของ คะคิชิ มิตซุคุริ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ซึ่งเป็นผู้ที่นำตัวอย่างที่ได้รับจาก อลัน โอลสตัน นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ มอบให้แก่ เดวิด สตารร์ จอร์แดน ซึ่งเป็นผู้อนุกรมวิธาน ดังนั้นชื่อวิทยาศาสตร์จึงถูกตั้งเพื่อเป็นเกียรติให้แก่บุคคลทั้งสองท่านนี้ ขณะที่ชื่อสามัญอาจจะแปลได้ว่ามาจากคำว่า “เท็งงุ” ซึ่งเป็นปีศาจในความเชื่อของญี่ปุ่นโบราณ ที่มีใบหน้าสีแดงและจมูกแหลมยาว
ปลาแลมป์เพรย์มีลำตัวยาวลักษณะคล้ายปลาไหล ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ มีครีบหลังและครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้อง มีลักษณะเป็นวงกลมใช้สำหรับดูด มีฟันแหลมคมจำนวนมากที่เจริญดีอยู่ในอุ้งปาก รูจมูกมี 1 รูซึ่งอยู่กึ่งกลางด้านบนของหัว มีตา 1 คู่ ถุงเหงือก 7 ถุง และมีช่องเหงือก 7 ช่อง หัวใจประกอบด้วยเวนตริเคิล 1 ห้อง และเอเตรียม 1 ห้อง โครงร่างเป็นกระดูกอ่อนและเส้นใย และยังคงมีโนโตคอร์ดอยู่ เส้นประสาทหลัง มีการพัฒนาเป็นสมองซึ่งมีเส้นประสาทสมอง 8-10 คู่ ทางเดินอาหารไม่มีกระเพาะอาหาร ส่วนลำไส้บิดเป็นเกลียว มีลักษณะเพศแยกออกเป็นเพศผู้และเพศเมียชัดเจน
ปลาแลมป์เพรย์พบได้ทั้งลำธารในน้ำจืดและในทะเล พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลก ทั้งยุโรปตอนบน, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, แอฟริกาตะวันตก, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ชิลี, ออสเตรเลีย และเกาะแทสมาเนีย
#6 Sarcastic Fringeheads หรือปลาฟรินช์เฮด
Sarcastic Fringehead หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Neoclinus blanchardi เป็นปลาหน้าตาประหลาดที่ค่อนข้างดุร้ายและมีนิสัยหวงถิ่น เมื่อโตเต็มที่มีขนาดประมาณ 30 เซ็นติเมตร มีครีบหน้าอกขนาดใหญ่ และมีปากที่สามารถอ้าได้กว้างมาก เมื่อเกิดการต่อสู้กันพวกมันจะอ้าปากประกบกันเพื่อวัดพลังและขนาดของปาก
Sarcastic Fringehead มีถิ่นกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิกแถบทวีปอเมริกาเหนือ มักอาศัยอยู่ในซากเปลือกหอยหรือตามร่องหิน ที่ระดับความลึก 3 ถึง 73 เมตร อาหารของมันคือกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ขนาดเล็กกว่าปากของมัน!
#7 Proboscis Monkeys หรือลิงจมูกยาว
ลิงจมูกยาว เป็นลิงจำพวกค่าง มีรูปร่างอ้วนลงพุง ขนตามลำตัวสีน้ำตาลแดง มีลักษณะเด่นคือ มีจมูกที่ยาวเหมือนงวงช้างห้อยเลยมาจนปิดปากตัวเอง ซึ่งมีเฉพาะในตัวผู้ในวัยที่โตเต็มที่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบว่ามีไว้เพื่ออะไร นอกเหนือจากการหายใจ ในขณะที่ตัวเมียและลิงตัวผู้วัยอ่อน จะไม่มีจมูกลักษณะดังกล่าวนี้ โดยจมูกของตัวผู้จะโตตามขนาดของร่างกาย
ลิงจมูกยาว ก็เหมือนกับค่างชนิดอื่นๆ ที่กระเพาะจะสามารถย่อยได้ดีแต่เฉพาะพืช ดังนั้น จึงกินอาหารจำพวก ใบไม้และผลไม้รสจืด รวมถึงเมล็ดพืชต่างๆ เป็นหลัก จะหากินในเวลาเช้าตรู่ โดยอาจหากินได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร มากกว่าลิงชนิดอื่นๆ มาก
พวกมันอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยมีตัวเมียที่อายุมากที่สุดเป็นผู้นำในการออกหากิน และตัวผู้ที่มีอายุมากที่สุดเป็นผู้ปิดท้ายขบวน อาศัยอยู่เป็นฝูงประมาณ 9 ตัว โดยมีตัวผู้เป็นจ่าฝูง จะปกครองแบบฮาเร็ม ที่อาจครอบครองตัวเมียมากถึง 5-6 ตัว ลูกลิงจมูกยาวตัวผู้หากโตเต็มที่เมื่ออายุได้ 2 ปีแล้วจะถูกขับออกจากฝูง
เมื่อลิงจมูกยาวตัวใดเมื่อเข้าสู่วัยชรา ก็จะถูกลิงที่หนุ่มกว่าเข้าครอบครองฮาเร็มและตัวเมียแทน ตัวผู้ที่ชราแล้ว มักจะถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ลิงจมูกยาวข่มขู่กันด้วยเสียงคำรามที่ดังและเป็นเอกลักษณะเฉพาะ หรือเกาะหรือขย่มกิ่งไม้ แต่จะไม่ถูกตัวกัน จะถูกตัวกันก็เฉพาะคู่ที่เป็นแม่ลูกกันเท่านั้น
#8 Bobbit Worms หรือหนอนบ๊อบบิท
หนอนบ็อบบิท เป็นหนอนปล้องกินเนื้อที่อาศัยอยู่ในชั้นตะกอนดินโคลนพื้นทะเล และมีพิษ ซึ่งอุปนิสัยของหนอนชนิดนี้นั้นจะฝังตัวเองอยู่ในชั้นโคลน ซุ่มรอ และล่อเหยื่อไม่ว่าจะเป็นปลา กุ้ง ปู หรือหมึกทะเล ให้เข้ามาใกล้ๆด้วยหนวดเล็กๆ ก่อนจะจับด้วยขากรรไกรโค้งแหลมนั้นอย่างรวดเร็ว แล้วลากเหยื่อลงไปกินในท่อโพรงที่อาศัย
นอกจากนี้ มันยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสยดสยองที่มีกลยุทธ์ในการจัดการกับเหยื่ออย่างหลากหลาย โดยเขี้ยวของมันสามารถตัดเหยื่อขาดเป็นสองท่อนได้ อีกทั้งยังสามารถพ่นพิษใส่เหยื่อให้กลายเป็นอัมพาตได้ทันทีอีกด้วย
จากการศึกษาทางดีเอ็นเอพบว่า อาย-อาย เป็นลีเมอร์ที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง และเป็นสัตว์ที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง เพราะมีระยะเวลาในการดำรงเผ่าพันธุ์มายาวนาน ถือเป็นต้นพันธุกรรมของลีเมอร์ที่หลากหลาย
ในปัจจุบัน อาย-อาย เป็นลีเมอร์ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากลีเมอร์ทั่วไป คือ มีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนปีศาจ มีใบหูที่กางโตเหมือนค้างคาว มีฟันที่แหลมคม โดยเฉพาะฟันหน้าที่จะไม่หยุดการงอกเหมือนกับสัตว์ฟันแทะ และมีนิ้วตีนที่ลีบเล็กเรียวยาวผอมติดกระดูก ทำหน้าที่เหมือนมือ และมีจุดเด่น คือ นิ้วตรงกลาง 2 นิ้ว คือ นิ้วชี้ และนิ้วกลางจะแหลมยาวออกมาจากนิ้วอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน
โดยมีนิ้วชี้เป็นนิ้วที่ยาวที่สุด อาย-อาย มีลำตัวขนาดเท่าแมว มีขนตามลำตัวสีดำปลายขนเป็นสีเงินหรือสีเทา มีหางยาวขนฟูเป็นพวงเหมือนกระรอก น้ำหนักตัวประมาณ 15 กิโลกรัม
งูมิลค์ (milk snake) มีหลากหลายสายพันธ์ ประมาณ 28 สายพันธุ์ย่อย มีพื้นที่ๆอาศัยกว้างมาก ตั้งแต่ แคนาดาจนถึงทางตอนใต้ของเอกวาดอร์ ลักษณะเรียวยาว รูปทรงกระบอก หัวเล็ก รูปร่างสวยงาม สีสันสดใส ด้วยสีแดงสด โดยมีสีดำคาดเหลือง เป็นปล้องๆ มีไว้ทำให้ศัตรูกลัว เนื่องจากการเลียนแบบงูพิษ (Coral snake) (งูไม่มีพิษ แดง ดำ เหลือง / งูมีพิษ แดง เหลือง ดำ) งู milk snake มาจากป่าฝน โดยชอบอากาศชื้น จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเมื่อถูกทำให้ตกใจ
#11 Whip Scorpions หรือแมงป่องแส้
แมงป่องแส้ มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับแมงป่อง มีขา 4 คู่ แต่ขาคู่หน้าเรียวยาวพัฒนาเป็นอวัยวะรับสัมผัส และมีขนยาวตอนปลายลำตัวมีลักษณะยาวคล้ายแส้ ไม่มีอวัยวะในการต่อย จึงเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษ แต่ก็สามารถปล่อยสารเคมีที่มีกลิ่นฉุนออกมา ซึ่งเป็นกรดอเซติคเป็นส่วนใหญ่ ใช้สำหรับป้องกันตัวไม่ใช้ล่าเหยื่อ อันสามารถขับไล่แมลงบางจำพวกอย่าง มด หรือเห็บไปได้
แมงป่องแส้ สามารถจัดจำแนกได้ตามลักษณะของหาง ซึ่งมีทั้งยาวและสั้น แพร่กระจายพันธุ์ในป่ารวมถึงในเมืองในภูมิภาคที่มีอากาศแบบเมืองร้อนหรือกึ่งเขตร้อนทั้งในทวีปยุโรป, แอฟริกา, เอเชีย จนถึงออสเตรเลีย ในปี ค.ศ. 2006 มีการจำแนกแมงป่องแส้ออกเป็นชนิดต่าง ๆ ได้มากกว่า 100 ชนิด ส่วนชนิดที่รู้จักและพบในไทย รวมถึงพม่าและกัมพูชา มีประมาณ 30 ชนิดหรือมากกว่า
#12 Giant Isopods หรือไอโซพอดยักษ์
เป็นสัตว์ทะเลน้ำลึกอาศัยอยู่ที่มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย ตัวของมันมีขนาด 19-36 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม มันเป็นสัตว์ที่กินเนื้อเป็นอาหาร ซากปลาและสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้าๆในท้องทะเล
ที่มา : Wikipedia / Buzzfeed