Others

12 เทคนิคเอาตัวรอดเมื่อถูกสัตว์ร้ายเล่นงาน ที่หลายคนอาจเข้าใจผิดมาตลอด

เหตุการณ์ต่างๆอาจเกิดขึ้นกับคุณอย่างไม่คาดคิดก็เป็นได้ ดังนั้นเทคนิคเอาตัวรอดดีๆเหล่านี้ อาจช่วยชีวิตคุณไว้ได้ ถึงแม้เราหวังว่าคุณจะไม่เจอเหตุการณ์ร้ายๆเหล่านี้เลยก็ตาม แต่ถ้ารู้ไว้เอาตัวรอด ย่อมดีกว่าอย่างแน่นอน ลองอ่าน 12 เทคนิคเอาตัวรอดเมื่อถูกสัตว์ร้ายเล่นงาน ที่หลายคนอาจเข้าใจผิดมาตลอด

.

#1 ปลาฉลาม

.

บนโลกใบนี้มีฉลามอยู่มากถึง 150 ชนิด และมีเพียง 20 ชนิดที่จู่โจมมนุษย์ และถ้ามันตั้งใจจะโจมตีคุณจะเป็นเรื่องยากที่จะหลักหนีมันได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ พยายามไม่ให้มีแผลจากร่างกายหรือปัสสาวะในน้ำ เพราะฉลามสามารถจับกลิ่นได้หลายกิโลเมตร

ถ้าเผชิญหน้าปลาฉลามโดยตรง พยายามอย่าว่ายหนีมัน เพราะในน้ำคุณก็เป็นแค่เหยื่อหนึ่งชิ้นที่ลอยช้าๆสำหรับปลาฉลามเท่านั้นเอง ดังนั้นให้คุณพยายามเผชิญหน้า และหากเหตุการณ์ไม่คาดฝันจริงๆแล้ว บริเวณที่เป็นจุดอ่อนของฉลามคือดวงตาและเหงือก ให้จู่โจมมันไปบริเวณดังกล่าว อาจช่วยชีวิตคุณไว้ได้

.

#2 จิงโจ้

.

โดยธรรมชาติจิงโจ้เป็นสัตว์ที่หวงอาณาเขต ถ้าคุณเกิดรุกล้ำไปโดยไม่ตั้งใจ ให้ลองไอสั้นๆและเงียบทันที เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกกับเจ้าจิงโจ้ว่าคุณป่วย เสร็จแล้วค่อยๆเดินถอยหลังอย่างช้า จนกว่ามันจะเลิกสนใจ

ห้ามหันหลังแล้ววิ่งหนีเป็นอันขาด เพราะมันจะล็อกเป้าคุณ และคุณเองจะไม่มีทางจะหนีจิงโจ้ที่กระโดดตามคุณด้วยความเร็วเต้มกำลังของมันได้แน่

.

#3 สิงโต

.

ถ้าคุณพบสิงโตโดยไม่ตั้งใจ อย่าหันหลังวิ่งหนี ให้คุณสบตากับมันตลอดเวลา เพราะถ้าคุณคลาดสายตาจากมันเพียงครู่เดียว อาจจะทำให้มันจู่โจมคุณได้ทันที

หลังจากนั้นลองทำตัวให้ดูใหญ่ขึ้น น่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น ส่งเสียงดังออกมาให้เสมือนว่า เราไม่ได้เป็นเหยื่อของมัน วิธีการนี้อาจทำให้สิงโตเกิดความเข้าใจผิดว่าเราเป็นนักล่า และถอยห่างออกไปเอง

.

#4 ช้าง

.

ช้างเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเป็นมิตรกับมนุษย์ แต่ว่าบางครั้งพวกมันก็อาจจะทำร้ายมนุษย์ได้เหมือนกัน เราสามารถสังเกตได้จากงวงของมันที่บิดตัว หรือหูที่พับไปทางด้านหลัง

หากช้างกำลังจะโจมตีคุณ ให้หาที่กำบังหลบให้พ้นสายตาของช้าง โดยอาจจะหลบอยู่หลังก้อนหินหรือว่าต้นไม้ก็ได้

.

#5 แรด

.

แรดเป็นสัตว์ที่มีสายตาไม่ดี นั้นจึงเป็นเหตุผลง่ายๆที่จะทำให้คุณถูกโจมตีได้ง่ายๆ อีกทั้งมันยังสามารถวิ่งได้เร็วถึง 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีวิธีที่จะหนีแรดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ถ้าคุณเจอแรดพุ่งเข้ามาจู่โจมให้วิ่งหนีโดยผ่านที่กำบังต่างๆ จะทำให้แรดไม่วิ่งตามคุณไปทางดังกล่าว

.

#6 ฮิปโป

.

ฮิปโปเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนึง ที่ฆ่ามนุษย์มากที่สุดในแต่ละปี ไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ยครับ อีกทั้งมันยังวิ่งได้เร็วถึง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว และมันยังโกรธง่ายอีกด้วย

ช่วงหน้าร้อนฮิปโปจะซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้าสูง และถ้าคุณถูกจู่โจมให้ปีนหน้าขึ้นที่สูงจะดีที่สุด

.

#7 กระทิง

.

แท้จริงแล้ววัวกระทิงไม่ได้เกลียดสีแดงอย่างที่เข้าใจกัน มันกำลังมองตามสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวต่างหาก ซึ่งหากคุณพบวัวกระทิงโดยบังเอิญ ให้คุณหาอะไรก็ได้ ขยับมันไปมา และเมื่อมันเข้ามาใกล้ก็ให้โยนสิ่งนั้นออกไปทันที ห้ามวิ่งหนีเลยเด็ดขาด มิฉะนั้นสิ่งที่มันล็อคเป้าหมายไว้ก้คือตัวคุณเอง

#8 แมงกะพรุน

.

อาจมีบางความเชื่อที่ให้ใช้ฉี่เวลาโดนแมงกะพรุนที่มีพิษ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริงเลย ที่ถูกต้องคือให้ใช้น้ำเกลือล้าง  และนำสิ่งที่ติดอยู่บริเวณที่โดนแมงกะพรุนออกให้หมด ส่วนน้ำจืดจะทำให้แผลแย่ลง

.

#9 จระเข้

.

จระเข้เป็นสัตว์ที่มีขากรรไกรและแรงกัดที่รุนแรงมากที่สุดบนโลกใบนี้ หากคุณพบเห็นจระเข้บนบก วิธีการหลบหนีคือวิ่งซิกแซกไปมา เพราะจระเข้จะสับสนเรื่องเสียงที่จะตามได้

สำหรับกรณีพบจระเข้ในน้ำ ก็พยายามทำตัวให้เงียบที่สุด เพราะเสียงดังหรือการเคลื่อนไหวที่รุนแรง จะเป็นการดึงดูดจระเข้ให้มาหาคุณได้มากยิ่งขึ้น

บริเวณที่อ่อนแอที่สุดของจระเข้คือดวงตาและก็ลำคอ หากจะต้องต่อสู้กับมัน ก็พยายามรวบรวมสติและเล็งไปที่บริเวณดังกล่าว

.

#10 เมื่อโดนงูพิษกัด

.

เราอาจจะเคยเห็นในภาพยนตร์ว่าเวลาถูกงูพิษต้องดูดเลือดออก นั่นเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ สิ่งที่คุณทำได้คือการล้างด้วยน้ำสะอาด รัดส่วนเหนือของแผล และโทรขอความช่วยเหลือหรือรีบนำส่งโรงพยาบาลให้รวดเร็วที่สุด

.

#11 กอริลล่า

.

กอริลล่าถูกขนานนามว่าราชาของป่าก็ว่าได้ พวกมันปกป้องดูแลครอบครัวและพื้นที่อยู่อาศัย ดังนั้นหากเจอกอริลล่าให้หลีกเลี่ยงการสบตา เพราะเหมือนจะเป็นการท้าทาย และพยายามนั่งหรือขดตัวให้เล็กลง เพื่อให้ดูว่าเราอ่อนแอ เพราะกอริลล่าจะไม่รังแกสัตว์ที่อ่อนแอกว่านั้นเอง

.

#12 ผึ้ง

.

ผึ้งจะปกป้องรังของพวกมันด้วยชีวิต ถึงแม้ว่าคุณจะเดินผ่านรังของมันเฉยๆก็ตาม สีของเสื้อมีผลอย่างมาก เพราะจะทำให้ผึ้งเข้าใจผิดได้ ถ้าใส่เสื้อสีเข้มจะทำให้มีโอกาสถูกต่อยสูงกว่าการใส่เสื้อสีอ่อนอีกด้วย

.

ทั้งหมดล้วนเป็นทฤษฎีเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลร้อยเปอร์เซ็น ทางที่ดีที่สุดคือเราต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นมากกว่าครับ

.

ที่มา : Brightside

หากคุณชื่นชอบเรื่อง หมาๆ แมวๆ และสัตว์โลกน่ารัก ติดตามได้ที่แฟนเพจ Dog vs Cat แมวซ่าส์ หมาบ๊องส์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น