Dogs & Cats

14 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงของคนเลี้ยงสัตว์ ที่อาจเคยผิดพลาดกันมากแล้ว

เจ้าของสัตว์เลี้ยงชอบแสดงความรักต่อสัตว์เลี้ยงด้วยวิธีต่างๆ ในแบบฉบับของตัวเอง แต่การแสดงความรักของเราบางทีก็ไม่ได้เป็นผลดีสำหรับสัตว์เลี้ยงเสมอไป ไปดูกันว่าพฤติกรรมเจ้าของสัตว์เลี้ยงแบบไหนที่ควรทำและแบบไหนควรหลีกเลี่ยง..

#14 การกอดและการจูบ

ทุกครั้งที่เราเดินผ่านสุนัขหรือแมวก็อยากจะคว้าตัวพวกมันมากอดไว้ แต่สำหรับพวกมันนี่เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เครียดเพราะในโลกของสัตว์ไม่เคยต้องเจออะไรแบบนี้ ดังนั้นสัตว์เลี้ยงก็อาจรู้สึกสับสนและกลัวแทน

เคล็ดลับ คือ เราควรค่อยๆสอนให้พวกมันเรียนรู้เพื่อตอบสนองคำสั่ง เช่น “ยืน” เพื่อให้พวกมันรู้ตัวก่อนว่าต่อไปต้องโดนกอดแล้วนะ

#13 ปลุกให้ตื่นทุกครั้งที่ต้องการ

เช่นเดียวกับที่เราพยายามไม่เสียงดังเวลาสมาชิกในครอบครัวนอนหลับ เราก็ควรเกรงใจและปล่อยให้สัตว์เลี้ยงนอนหลับแบบสบายๆ โปรดตระหนักไว้เสมอว่าการโดนปลุกกะทันหันจะสร้างความตึงเครียดให้สัตว์เลี้ยง

เคล็ดลับ คือ เราไม่ควรปลุกสัตว์เลี้ยงแบบฉับพลันโดยไม่มีเหตุผล เพราะพวกมันไม่ใช่ทารกที่จะต้องอยู่ติดกับเราตลอด 24 ชั่วโมง

#12 จ้องมองสัตว์เลี้ยงตาเขม็ง

เวลาที่มีใครมองหน้าเราเราก็มักรู้สึกอึดอัดและสงสัยว่ามองหน้าทำไมจนหลายครั้งทำให้เกิดเรื่องบาดหมาง ในโลกของสัตว์พฤติกรรมเช่นนี้หมายถึงการตกอยู่ในอันตรายและต้องเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

เคล็ดลับ คือ เมื่อเราอยากจะชื่นชมสัตว์เลี้ยงควรเลือกทำตอนที่พวกมันสงบนิ่ง หลีกเลี่ยงการมองที่ดวงตาโดยตรงเพื่อไม่ให้สุนัขหรือแมวของเราหงุดหงิดหรือกังวลใจ

#11 ดุหรือตำหนิสัตว์เลี้ยงที่ขโมยอาหารที่เราทิ้งไว้

กี่ครั้งแล้วที่เราวางของกินอร่อยๆ ไว้บนโต๊ะในห้องครัวแล้วผละไปทำอย่างอื่น เมื่อกลับมาที่ห้องครัวก็พบว่าของกินหายไปแล้ว สิ่งแรกที่นึกขึ้นได้คือเจ้าหัวขโมยตัวแสบสี่ขาของเราแน่ๆ และเราก็ต้องว่าและทำโทษพวกมันก่อน แต่อยากให้ลองคิดทบทวนอีกทีว่าพวกมันไม่ได้อยากขโมย ที่ทำไปเพราะสัญชาตญาณตามธรรมชาติซึ่งควบคุมไม่ได้

เคล็ดลับ คือ เอาอาหารคนใส่เข้าตู้เย็นหรือตู้กับข้าวให้หมด อย่าวางไว้ข้างนอกและอย่าพยายามเอามายั่วยวนเพราะพวกมันไม่สามารถต้านทานความอยากได้เท่ามนุษย์

#10 ใช้คำที่แตกต่างสำหรับคำสั่งเดียว

“ไปคาบลูกบอลมา” และ “ลูกบอลอยู่ไหน” เป็นสองประโยคที่ความหมายเหมือนกันแต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงต่อสมองของสัตว์เลี้ยง นี่จะทำให้พวกมันสับสนและทำให้หมดสนุก

เคล็ดลับ คือ เลือกใช้คำพูดหรือประโยคเพียงประโยคเดียวสำหรับคำสั่งหนึ่งคำสั่งเท่านั้น

#9 การปล่อยให้สัตว์เลี้ยงขี้เกียจตลอดทั้งวัน

สัตว์ต้องมีการออกกำลังกายให้เพียงพอเท่ากับมนุษย์แม้ว่าสุนัขหรือแมวของเราจะมีขนาดเล็กเท่าถาด เราควรพาพวกมันออกไปเดินเล่นข้าางนอกบ้าง การขาดการออกกำลังกายจะส่งผลให้เกิดโรคอ้วนและนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพอื่นๆ

เคล็ดลับ คือ พยายามหาเวลาว่างออกไปเดินเล่นกับสัตว์เลี้ยงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี อาจจะเล่นด้วยกันหรือวิ่งไปพร้อมกันก็ได้

#8 “ไม่เป็นไร..ไม่ต้องกลัว”

สัตว์เลี้ยงสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งไม่ดีที่กำลังจะมาถึง ถ้าสุนัขหรือแมวของคุณกลัวการอาบน้ำ พวกมันจะวิ่งไปหลบทันทีที่เราเปิดน้ำและเราเองก็พยายามหาเหตุผลดีๆ ให้กับพวกมันราวกับว่าพวกมันเป็นมนุษย์ ไม่มีประโยชน์ที่เราจะใช้วลี เช่น “ไม่เป็นไร” หรือ “ไม่ต้องกลัว” เพื่อปลอบใจพวกมัน ตรงกันข้ามคำพูดเหล่านี้กลับขัดหูและทำให้เกิดความไม่พอใจกับสัตว์เลี้ยง

เคล็ดลับ คือ อย่าพยายามใช้คำพูดที่สื่อถึงการปลอบใจ ให้ทำตัวตามปกติเพราะสิ่งนี้จะทำให้สัตว์เลี้ยงไม่สบายใจน้อยลง

#7 แบ่งอาหารของเรา

มันก็จะยากหน่อยที่ต้องหักห้ามใจไม่แบ่งอาหารของเรากับสัตว์เลี้ยง แต่สิ่งนี้จำเป็นอย่างมากเพราะอาหารของเราไม่เหมาะกับร่างกายของพวกมัน

เคล็ดลับ คือ อย่าให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารแปรรูปหรืออาหารจานด่วนของมนุษย์ ถ้าคุณอยากให้เพื่อนตัวน้อยมีสุขภาพดีก็ควรเริ่มจากการปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อปรับและวางแผนการกินใหม่

#6 กระบะทราย

มันสะดวกจริงๆ ถ้าแมวของเราสามารถแบ่งปันกระบะทรายกับแมวตัวอื่น แต่ในความเป็นจริงสิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องการพื้นที่ส่วนตัวกันทั้งนั้นโดยเฉพาะแมว การซื้อกระบะทรายแยกสำหรับสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวของเรานั้นดีกว่าการวางกระบะทรายไว้รอบๆ บ้าน

เคล็ดลับ คือ ก่อนที่เราจะหาสัตว์มาเลี้ยงต้องแน่ใจก่อนว่าสามารถให้ในสิ่งที่พวกมันต้องการได้ทั้งหมดเพื่อความสุขของสัตว์เลี้ยงเราที่รัก

#5 การตะโกนใส่สัตว์เลี้ยงที่ทำความผิดและไม่เชื่อฟัง

สัตว์เลี้ยงของเราก็มีความรู้สึก พวกมันเข้าใจอย่างชัดเจนเมื่่อทำความผิดและรู้สึกสำนึกในความผิด ในฐานะเจ้าของโปรดจำไว้ว่าหน้าที่ของเราคือต้องไม่ตำหนิในความผิดพลาดของพวกมัน

เคล็ดลับ คือ ไม่ว่าเราจะหงุดหงิดอารมณ์เสียกับความผิดพลาดของสัตว์เลี้ยงแค่ไหน เราต้องพยายามสงบนิ่งและหนักแน่นสอนพวกมันอย่างใจเย็นว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ ถ้าเราเอาแต่ตะโกนใส่และโกรธตลอดเวลาจะทำให้สัตว์เลี้ยงตกใจและสับสนและจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง

#4 ใส่อาหารในจานเกินความต้องการ

หลายคนทำผิดพลาดเรื่องการเทอาหารใส่จานของสัตว์เลี้ยงมากเกินความจำเป็น เผื่อว่าพวกมันอาจจะหิวเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน นี่อาจดูเป็นการแก้ปัญหาที่รอบคอบแต่สามารถนำไปสู่โรคอ้วนและปัญหาสุขภาพ เพราะสิ่งนี้ทำให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารทุกครั้งที่เห็นอาหารแม้ว่าพวกมันจะไม่หิวก็ตาม

เคล็ดลับ คือ เราควรให้อาหารสัตว์เลี้ยงในปริมาณที่ถูกต้องตามสัดส่วนของสายพันธ์ุ อายุ และน้ำหนัก เพื่อร่างกายที่แข็งแรง

#3 การฝึกฝน

เราอาจคิดว่าการฝึกฝนลูกสุนัขหรือลูกแมวเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่ตรงกันข้าม เพราะยิ่งเราเริ่มต้นฝึกฝนพวกมันเร็วและอธิบายว่าสิ่งไหนดีและสิ่งไหนไม่ดีจะส่งผลให้พวกมันได้เรียนรู้เร็วและเข้าใจง่ายขึ้น

เคล็ดลับ คือ เราต้องอธิบายในความผิดพลาดของสัตว์เลี้ยงในทันที ถ้าเรากลับบ้านแล้วเห็นบ้านเลอะเทอะอย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเพราะพวกมันจะไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่เราโกรธ และหากสัตว์เลี้ยงของเราทำดีอย่าลืมชมเชยทุกครั้ง นี่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเรากับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

#2 ปล่อยให้อยู่บ้านลำพังเป็นเวลานาน

เวลาที่เราไม่อยู่บ้านอาจคิดว่าสัตว์เลี้ยงคงสามารถดูแลตัวเอง เล่นของเล่น หรืองีบหลับ สิ่งนี้ไม่จริงเสมอไปเพราะเมื่อสุนัขหรือแมวอยู่เพียงลำพังนานกว่าสองสามชั่วโมงพวกมันก็จะเริ่มนอยและซึมเศร้า เราจึงไม่ควรทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ลำพังมากเกินวันสองวันและควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าก่อนที่เราจะไม่อยู่บ้านเราได้เตรียมสิ่งที่พวกมันต้องการไว้พร้อมแล้ว

เคล็ดลับ คือ ถ้าคุณต้องออกไปข้างนอกลองชวนญาติหรือเพื่อนสนิทมานอนที่บ้าน หรืออาจพิจารณาหาสัตว์เลี้ยงเพิ่มเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนกัน

#1 สัตว์เลี้ยงมีแต่เราเท่านั้น

สัตว์เลี้ยงต้องการการดูแลเอาใจใส่ นอกเหนือจากการให้อาหารและพาออกไปเดินเล่น เราควรหาเวลาเล่นเกมและมอบความรักให้พวกมัน ซึ่งทั้งสุนัขและแมวชอบใช้เวลาอยู่กับมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย

เคล็ดลับ คือ อย่าลืมหรือมองข้ามความสำคัญของสัตว์เลี้ยง เพราะพวกมันคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่เคียงเราเสมอ ชีวิตของพวกมันซื่อสัตย์และมีแต่เราเสมอไม่เปลี่ยนแปลง

ขอบคุณที่มา : brightside

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น