คนจำนวนมากที่ได้เห็นเจ้า Bighead ต่างก็พยายามเดากันว่าแท้จริงแล้วมันคือสุนัขพันธ์ุอะไร บ้างก็ว่าเป็นบลูด็อก เป็นคอลลี่ เป็นเซนต์เบอร์นาร์ด หรือแม้แต่เป็นชิวาวาก็มี แต่จะเดากันไปอย่างไรก็ไม่มีใครเดาถูกสักคน!
เจ้า Bighead กับเพื่อนของมันรวม 4 ชีวิตเข้ามาที่ศูนย์ช่วยเหลือและพักพิงสัตว์ Humane Society Silicon Valley ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตอนนั้นพวกมันมีอายุเพียง 6 สัปดาห์
ลูกสุนัขทั้ง 4 ตัวเป็นสุนัขเร่ร่อนที่มีพลเมืองดีพามาส่งที่ศูนย์ช่วยเหลือฯ โดยมี Lauren Gallagher เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินรับพวกมันไว้ในความดูแลซึ่งเธอจะคอยดูให้พวกมันเติบโตแข็งแรงพร้อมสำหรับบ้านใหม่ที่แท้จริง แต่เธอเองจะชอบเจ้า Bighead มากกว่าใครเพื่อนแม้ว่ามันจะมีลักษณะผิดเพี้ยนไปจากตัวอื่นๆ
ในขณะที่ลูกสุนัข 3 ตัวมีลักษณะปกติและดูเหมือนลูกสุนัขพันธ์ุคอร์กี้ผสม แต่เจ้า Bighead กลับดูสั้นๆ จิ๋วๆ แถมมีหัวขนาดใหญ่ ซึ่งเหตุผลที่มันดูแตกต่างจากเพื่อนก็ยังคงเป็นปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้
เพื่อไขปริศนานี้ทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ฯ จึงได้ตรวจ DNA ของลูกสุนัขตัวน้อย ระหว่างรอผลตรวจทุกคนยังพยายามเดาต่อไปว่ามันเป็นสุนัขพันธ์ุอะไรกันแน่ เมื่อผลตรวจออกมาก็ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ!!
“ปรากฏว่าเจ้า Bighead มีทั้งยีนชาเป่ย 25 เปอร์เซ็นต์, บ็อกเซอร์ 25 เปอร์เซ็นต์, ลูกผสมอเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอร์เรียร์ 12.5 เปอร์เซ็นต์, บอร์เดอร์ คอลลี่ 12.5 เปอร์เซ็นต์, ลาซา แอพโซ 12.5 เปอร์เซ็นต์ และสายพันธ์ุอื่นที่ไม่สามารถระบุได้ อีก 12.5 เปอร์เซ็นต์” ด้วยสายพันธ์ุที่มากมายลูกสุนัขตัวน้อยจึงกลายเป็นสุนัขพันธุ์ทางที่น่ารักสุด ๆ
เมื่อถึงเวลาที่เจ้า Bighead และลูกสุนัขทั้งหมดต้องหาบ้านอยู่ตลอดกาล แต่ Gallagher ผู้ดูแลมันตัดสินใจว่าจะเก็บเจ้า Bighead ไว้เลี้ยงซะเอง ตอนนี้มันก็มีพี่น้องตัวใหญ่ให้เล่นด้วยเพิ่มขึ้นอีก
เจ้า Bighead จะยังคงขาสั้นตัวเตี้ยน่ารักไปตลอด มันมีความสุขในบ้านของมันและ Gallagher เจ้าของอย่างเป็นทางการของมันก็พามันไปที่ทำงานทุกวันทำให้ทุกคนที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ฯ ได้เจอเจ้า Bighead ทุกวันและจะได้เห็นว่าโตขึ้นแล้วมันจะเป็นอย่างไร
“นี่คือผมตอนโตครับ”
“ยังน่ารักเหมือนเดิมใช่ไหมครับ!?”
