เสือดาวหิมะ สัตว์ป่าแสนสง่างามแห่งเขาสูงอันหนาวเหน็บ ที่กำลังเผชิญภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ และผู้คุกคามพวกมันก็หนีไม่พ้น “มนุษย์”
เสือดาวหิมะ มีแหล่งอาศัยตามธรรมชาติอยู่เฉพาะในพื้นที่หนาวเย็นตามภูเขาสูงแถบเอเชียกลาง ปัจจุบันมันกลายเป็นหนึ่งในสัตว์หายากที่อยู่ในภาวะเสี่ยงใกล้จะสูญพันธุ์เต็มที ปัจจุบันคงเหลือเสือดาวหิมะอยู่เพียงแค่ 4,000 ตัว โดยในช่วง 16 ปีที่ผ่านมาจำนวนเสือดาวหิมะลดลงมากถึง 20 เปอร์เซนต์ โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ส่งผลไม่ให้ประชากรเสือดาวหิมะดิ่งลงฮวบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน นั่นก็คือภัยคุกคามจากมนุษย์ จากการล่าเพื่อนำหนังของมันไปทำเป็นเสื้อคลุม อันกลายเป็นอาภรณ์มูลค่าสูง และยังบุกรุกพื้นที่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมันด้วย
.
หลายคนอาจเคยรู้จักเสือดาวหิมะกันมาบ้าง มันมีรูปร่างเหมือนกับเสือดาวทั่วไป แต่ตัวของมันนั้นเป็นสีขาว ซึ่งงดงามมากๆ มองอีกแง่ก็คือมันคือแมวตัวใหญ่ตัวหนึ่งนั่นเอง
.
แต่รู้หรือไม่ว่าเสือดาวหิมะนั้นไม่สามารถคำรามได้เหมือนเสือทั่วไป แต่มันก็ยังมีสิ่งที่ทำให้ดูน่าเกรงขาม นั่นก็คือหางที่แสนจะปุกปุยน่ารักของมันนั่นเอง แถมยังยาวมากอีกด้วย ประมาณ 80 – 105 เซนติเมตร ช่วยในการทรงตัว
.
และอีกสิ่งหนึ่งที่เสือดาวหิมะชอบทำนั่นก็คือการกัดหางตัวเองเล่น ทำให้เวลาคนที่ไปเที่ยวสวนสัตว์เห็นแล้วต้องรู้สึกน่ารักน่าเอ็นดู และยังมีโมเม้นท์อื่นๆอีกมากมาย เราไปชมความน่ารักของมันกันเลย
.
เสือดาวหิมะมีขนยาวหนาแน่น สีพื้นเทาอมเหลือง บริเวณสีข้างจะอมเหลืองจางๆ มีลายดอกเข้มทั่วตัวคล้ายเสือดาว ช่วยให้ดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่อาศัยซึ่งเป็นภูเขาหินและหิมะปกคลุม
.
ลายดอกบริเวณหลังและสีข้างมีขนาดใหญ่ ส่วนบริเวณหัวและขาเป็นลายจุดขนาดเล็ก บริเวณคาง อก และท้องเป็นสีขาวปลอดไม่มีลาย ลายบริเวณหลังและสีข้างจะจางกว่าบริเวณอื่น ซึ่งต่างจากเสือลายจุดชนิดอื่นที่มักมีลายที่หลังเข้มกว่า หางด้านบนจะเป็นวงสีดำ ด้านล่างของหางเป็นจุดจางๆ เปรียบเทียบลายดอกของเสือดาวหิมะกับของเสือดาวแล้ว ดอกของเสือดาวหิมะจะห่างกันมากกว่าและไม่คมชัดเท่า
เสือดาวหิมะมีกล้ามเนื้อหน้าอกและหัวไหล่ที่แข็งแรง อุ้งเท้ากว้างแข็งแรงและปกคลุมด้วยขน ช่วยให้เพิ่มพื้นที่ผิวและกระจายน้ำหนักตัวลงบนหิมะได้อย่างสม่ำเสมอ และช่วยปกป้องอุ้งเท้าจากความเย็นของหิมะได้ดี มีโพรงจมูกใหญ่ที่มีลักษณะพิเศษช่วยให้อากาศที่เย็นเปลี่ยนเป็นอุ่น ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าไปในปอด และมีหางยาวที่ขนฟูสามารถพันรอบตัวเพื่อป้องกันความหนาวได้เหมือนผ้าพันคอ
.
มีพฤติกรรมและชีววิทยาเป็นสัตว์ที่มีนิสัยขี้อาย มักหลบเมื่อพบกับมนุษย์ สามารถกระโดดได้ไกลถึง 15 เมตร มีรายงานนอนกลางวันชอบหลบไปนอนในรังของแร้งดำหิมาลัย (Aegypius monachus) โดยการกระโดดขึ้นไปเลยไม่ใช้การปีน
มักจะออกล่าเหยื่อในเวลาพลบค่ำหรือกลางคืน โดยล่าสัตว์ทุกขนาดทั้งสัตว์ใหญ่สัตว์เล็ก รวมถึงล่าปศุสัตว์ของมนุษย์ เช่น แพะหรือแกะ เป็นอาหารได้ด้วย โดยปกติแล้วจะล่าเหยื่อและอยู่ตามลำพัง ยกเว้นในฤดูผสมพันธุ์ ที่อาจอยู่เป็นคู่
.
เมื่อล่าเหยื่อได้แล้วอาจจะกินไม่หมดในครั้งเดียว อาจใช้เวลานานถึง 3–4 วันกว่าเหยื่อจะหมด นานที่สุดคือ 1 สัปดาห์ และจากคำบอกเล่าของชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ที่เทือกเขาปามีร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยเล่าว่า เสือดาวหิมะเป็นสัตว์ฉลาด เมื่อจะล่าแพะป่าจะใช้วิธีกลิ้งหินจากข้างบนเพื่อให้เข้าใจผิดว่าเป็นลมพัด เมื่อแพะอยู่นิ่ง ๆ เสือดาวหิมะจึงจะจู่โจม
เสือดาวหิมะมักอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ในระยะเวลาประมาณ 7–10 วัน ก่อนที่จะเดินทางไกลไปอีกที่หนึ่ง ระยะทางที่เดินทางวันหนึ่งเฉลี่ยราว 1 กิโลเมตรสำหรับตัวผู้และ 1.3 กิโลเมตรสำหรับตัวเมีย บางครั้งอาจเดินทางได้ไกลถึงวันละ 7 กิโลเมตร
.
ในอดีตมีการล่าเสือดาวหิมะเพื่อทำเป็นเสื้อขนสัตว์ โดยมีราคาซื้อขายสูงถึงตัวละ 50,000 ดอลลาร์ และมีการล่าถึงปีละ 1,000 ตัว จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1952 ทางรัฐบาลอินเดียจึงได้ออกกฎหมายคุ้มครองขึ้นมา แต่ปัจจุบันก็ยังมีการลักลอบในพื้นที่ต่าง ๆ เช่นกัน
.
.
.
.
.
วิดีโอความน่ารักครับ
.
ที่มา : Boredpanda / Wikipedia
หากคุณชื่นชอบเรื่อง หมาๆ แมวๆ และสัตว์โลกน่ารัก ติดตามได้ที่แฟนเพจ Dog vs Cat แมวซ่าส์ หมาบ๊องส์