เราควรตัดผมทุกๆ แปดหรือสิบสองสัปดาห์เพื่อให้เส้นผมแข็งแรงและมีสุขภาพดี เมื่อไหร่ก็ตามที่ประสบปัญหาเส้นผมแตกปลายและไม่มีชีวิตชีวา พวกเราจะวิ่งแจ้นไปที่ร้านตัดผมทันที แต่จะเป็นอย่างไรหากเราทำเช่นนั้นไม่ได้
ขณะที่มนุษย์สามารถพาตัวเองไปร้านตัดผมเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สุนัขกลับต้องพึ่งพามนุษย์ในการดูแลขนของมันให้เข้ารูปเข้าทรง ที่สำคัญขนสัตว์ที่ถูกปล่อยปละละเลยอาจสร้างความเสียหายมากกว่าที่คิดได้
ที่โรงนาแห่งหนี่งในรัฐเทนเนสซี่ เราได้รับการต้อนรับจากแสงแดด ความเงียบสงบ และบรรยากาศแบบชนบท ภาพของแกะ วัว และไก่นำมาซึ่งประสบการณ์ที่เบิกบานและสงบสุข
อย่างไรก็ตามโรงนาแห่งนี้มีความลับซ่อนอยู่ สุนัขตัวหนึ่งหนึ่งซึ่งถูกเลี้ยงไว้ที่นี่ไม่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีสักเท่าไหร่
ลาซารัสเป็นสุนัขพันธุ์พิเรเนียนแสนเชื่อง มันใช้ชีวิตในช่วงเจ็ดปีแรกโดยไม่รับการดูแลเอาใจใส่ ภาพของลูกสุนัขที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวผุดขึ้นในจินตนาการของเรา
หลายปีที่มันถูกปล่อยไว้ในโรงนาที่เหม็นอับและสกปรก ไม่มีที่ให้วิ่งเล่น ไม่มีท้องฟ้าให้แหงนมอง มันถูกปล่อยเอาไว้เพียงลำพังให้ดูแลตัวเองและถูกล้อมรอบด้วยกองขยะ
สุนัขพันธุ์พิเรเนียนมีขนสองชั้น ขนชั้นล่างของมันหนาและละเอียด ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมายตามมา
ขนที่เป็นสังกะตังของลาซารัสทั้งหนาและหนักอย่างไม่น่าเชื่อ (ประมาณ 35 ปอนด์) และในตอนนั้นมันต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
น่าเศร้าที่เจ้านายของลาซารัสไม่สามารถช่วยมันได้เพราะอาการป่วยทางจิต หลังจากที่เขาขอความช่วยเหลือจากญาติคนหนึ่งเป็นการเร่งด่วน สุนัขที่สิ้นหวังตัวนี้ก็ได้พบกับวันที่ดีที่สุดในชีวิต
หลังจากที่ได้รับแจ้ง ทีมอาสาสมัคร Big Fluffy Dog Rescue ซึ่งรวมถึงช่างตัดขนสุนัขสองคน (ซึ่งรู้อยู่แล้วงานหินกำลังรออยู่) ก็เข้ามาปลดปล่อยลาซารัสจากความขมขื่น
ทีมช่วยเหลือต้องฝ่าฟันดินโคลนและสิ่งปฏิกูลที่ขวางประตูโรงนาและสามารถเข้าไปถึงคอกของลาซารัส ในที่สุดเทวดาน้อยขนยาวที่น่าสงสารก็รอดชีวิตและได้รับอิสรภาพ
ทันทีที่เข้าถึงตัวลาซารัส พวกเขาก็รู้ว่ามันมีปัญหาสุขภาพที่ขัดขวางความสามารถในการไปไหนมาไหนอย่างสะดวก ขนที่เป็นสังกะตังทำให้มันเดินไม่ได้ ความฝันของมันที่จะวิ่งเล่นอย่างอิสระในท้องทุ่งท่ามกลางแสงแดด ไล่จับแมว และผีเสื้อ ไม่เคยเป็นความจริงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จีน แฮริสัน เจ้าของ Big Fluffy Dog Rescue กล่าวว่า “มันไม่มีมวลกล้ามเนื้อ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ อย่าว่าแต่เดินเลย” แม้จะเป็นข่าวที่น่าตกใจ แต่ทุกคนก็ไม่หวั่นไหว
ต้องใช้หลายชั่วโมงทีเดียวสำหรับการตัดขนให้ลาซารัส ในช่วงแรกๆ มันเอาแต่งอตัวเพราะความกลัว แต่ทันทีที่คอของมันเป็นอิสระจากขน มันก็สบายใจขึ้นและรู้ว่ามนุษย์กลุ่มนี้มีเจตนาดีกับมัน
“มันสงบลงและดูเหมือนจะเข้าใจว่าการตัดขนจะทำให้มันรู้สึกสบายขึ้น” เจสสิก้า คินเชอโลซึ่งเป็นช่างตัดขนคนหนึ่งกล่าว
จีน แฮริสันกล่าวว่า “ลาซารัสไม่รู้ว่าการเป็นสุนัขเป็นอย่างไร มันไม่รู้วิธีปฏิบัติตัวแบบสุนัข มันจะต้องเรียนรู้”
หลังจากตัดขนที่รกรุงรังแล้ว ลาซารัสก็กลายเป็นสุนัขสุดหล่อตัวใหม่ มันดูปราดเปรียวขึ้นด้วยทรงขนทรงใหม่
จีนกล่วว่าลาซารัสซึ่งยังคงเหนียมอาย “เข้าใกล้สเต็กอย่างระแวดระวัง ซึ่งนั่นทำให้เราเศร้า สุนัขไม่ควรจะจดๆ จ้องๆ อาหารแบบนั้น”
จากที่นั่น ลาซารัสถูกนำไปที่บ้านสงเคราะห์สัตว์ในรัฐเวอร์จิเนียเพื่อการพักฟื้น ระหว่างที่อยู่ที่นี่มันจะต้องเอาชนะอดีตให้ได้ และที่สำคัญที่สุดมีความสุขมากมายที่รอมันอยู่
หลายสัปดาห์หรือจริงๆ แล้วก็คือหลายเดือนนั่นล่ะ ในที่สุดลาซารัสก็แข็งแรงและแข็งแกร่งขึ้น มีศักดิ์ศรีในตัวเองพอที่จะได้รับการอุปการะจากครอบครัวตลอดกาล
เป็นไปตามคาด ลาซารัสได้รับการอุปการะอย่างรวดเร็ว ครอบครัวของมันดูแลขนที่แสนมีค่าของมันอย่างเหมาะสม ให้ทั้งความรักและความเอาในใส่กับมันอย่างที่มันสมควรจะได้รับ
การช่วยชีวิตสุนัขอย่างลาซารัสไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็คุ้มค่า ผู้ช่วยชีวิตสัตว์หลายคนกล่าวว่ากรณีที่ยากที่สุดย่อมคุ้มค่าที่สุด
ที่มา : honesttopaws
