เมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่คริส เลนเคอร์และภรรยากำลังขับรถกลับบ้านจากที่ทำงาน พวกเขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างข้างทาง ตอนแรกพวกเขาคิดว่า น่าจะเป็นพวกสัตว์ตัวเล็กๆ เช่น ลูกกวาง เพราะอยู่แถบชานเมือง แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ๆ พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาคิดผิด เลนเคอร์บอกว่า “เราชะลอรถ ถึงรู้ว่าเป็นน้องหมา”
เลนเคอร์กระโดดลงจากรถและเรียกน้องสุนัข แต่น้องสุนัขกลัวเลยวิ่งไปอีกทาง เลนเคอร์ตามน้องไป จนคิดว่าจะไม่ตามแล้ว “ตอนแรกฉันหามันไม่เจอ ก็ว่าจะกลับแล้ว” เลนเคอร์กล่าว “แต่ฉันก็มีลางสังหรณ์ว่า น่าจะอยู่แถวนี้”
เลนเคอร์ก็พบลูกสุนัขหลังรั้ว และ ไม่กี่นาทีต่อมาน้องสุนัขก็เริ่มหายกลัวและพร้อมที่จะลองเปิดใจ “น้องวางขาหน้าที่คอฉัน และยอมให้ฉันอุ้มขึ้นรถ” เลนเคอร์กล่าว “น้องเขาน่าจะรู้สึกกังวลมาก แต่ฉันบอกได้ว่า น้องเขาไว้ใจฉัน มันเหมือนกับอะไรบางอย่างดลให้เรามาเจอกัน”
ไม่นานหลังจากที่ลูกสุนัขเข้ามาอยู่ในรถ ท่าทีก็เปลี่ยนไป เหมือนลูกสุนัขจะรู้ว่า เขาปลอดภัยแล้ว “ฉันลูบหัวมัน และบอกว่า ไม่เป็นไร แกมีฉัน” เลนเคอร์บอกลูกสุนัข “และตอนนั้นเองที่น้องเขาขดตัวบนตักฉัน ฉันรู้สึกโล่งใจมากที่น้องดูจะเข้ากับฉันได้ และน้องก็นอนบนตักฉันแบบนี้ไปจนถึงบ้าน”
พวกเขานำลูกสุนัขมาอาบน้ำและให้เวลาพักฟื้นร่างกายในห้องน้ำที่อบอุ่น ระหว่างนั้นพวกเขาก็ตั้งชื่อลูกสุนัขว่า ริบ้า และเมื่อลูกสุนัขรู้สึกดีขึ้น มันก็จะได้เจอพี่น้องสุนัขตัวอื่นที่จะสอนวิธีการอยู่ร่วมกันในบ้าน
และริบ้าก็น่ารักเหมือนวันแรกที่พวกเราได้เจอ “น้องชอบที่จะให้เราลูบท้อง และน้องก็ไม่อายที่จะบอกเรา!” เลนเคอร์เล่า “น้องจะล้มตัวลงที่พื้นและแตะเรียกเราจนกว่าเราจะยอม”
ช่วงแรกริบ้าไม่ยอมให้เราช่วย แต่ตอนนี้น้องไม่ยอมที่จะห่างเราเลย ไม่แม้แต่จะออกไปเพื่อฝึกฉี่นอกบ้าน น้องต้องให้เราอุ้มออกไปและอุ้มกลับทุกครั้ง “ฉันคิดว่า น้องน่าจะกลัวว่า มันจะถูกทิ้งอยู่นอกบ้าน” เลนเคอร์กล่าว
เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันแต่ริบ้าก็เริ่มอ้วนขึ้นและเริ่มเรียนรู้ความหมายของคำว่าครอบครัวที่แท้จริง “ริบ้าแข็งแรงมากขึ้นมาก และขี้อ้อนมากด้วย” เลนเคอร์เล่า “สิ่งที่น้องอยากทำอย่างเดียวคืออยากให้กอดคลอเคลียและอยากให้เราหอมมัน นั่นเป็นสิ่งที่น้องชอบมากจริงๆ”
เลนเคอร์เชื่อว่า เป็นพรมลิขิตที่พวกเขาจะได้ริบ้ามาอยู่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว “ริบ้าไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลย แต่ยอมให้เรารับเขาเข้าบ้าน” เลยเคอร์บอก “ริบ้าเชื่อใจเราและนั้นก็ทำให้เราตกหลุมรักมาก”
ที่มา : Thedodo